ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นไปทําจุดสูงสุดในรอบล่าสุดที่ 26,695.96 จุด เมื่อวันที่ 23 เมษายน ปี พ.ศ 2562 และแล้วอยู่ดีๆประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็ประกาศปรับขึ้นภาษีจาก 10% เป็น 25% ของสินค้านําเข้าจากจีนจํานวน 200,000 ล้าน USD เดิม เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562 และให้มีผลในวันที่ 10 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562 เวลา 12:01 นาฬิกาตามเวลาในสหรัฐอเมริกา และจะปรับขึ้นอีกที่เหลือจํานวน 325,000 ล้าน จากเดิมไม่มีการเก็บภาษีเลย เป็นเก็บภาษี 25% โดยจะให้มีผลในเร็วๆนี้ โดยให้เหตุผลว่า " จีนเบี้ยวข้อตกลง และปรับเปลี่ยนข้อตกลงอยู่เป็นประจํา จึงทําให้การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐอเมรืกากับจีนต้องล่าช้ามาอยู่เรื่อยๆ "
วันที่ 13 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562 จีนประกาศตอบโต้โดยการขึ้นภาษีสินค้านําเข้าจากสหรัฐอเมริกาจากเดิม 5 - 10% เป็น 25% จํานวน 60,000 ล้าน USD และมีผลในวันที่ 1 มิถุนายน ปี พ.ศ 2562 นี้
และจากการตอบโต้ของจีนนี่เอง ทําให้ดาวโจนส์ดิ่งนรก! ลงไปทําจุดตํ่าสุดในรอบนี้ที่ 25,222.51 จุด หรือลดลงระหว่างชั่วโมงการซื้อขายที่ -719.86 จุด และอยู่ดีๆอีกครั้งหนึ่งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก็ให้สัมภาษณ์สื่อว่า " เขาจะยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะปรับขึ้นอัตราภาษีสำหรับสินค้าจีนที่เหลืออีก 325 พันล้านดอลลาร์ " แล้วพยายามสื่อฯความหมายผ่านไปทางที่ปรึกษาทางด้านเศรษฐกิจ Larry Kudlow ว่า " เขาจะหารือกับประธานาธิบดีสี จินผิงอีกครั้งหนึ่งในการประชุม G-20 ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน ปี พ.ศ 2562 " ซึ่งก็มีผลให้ดาวโจนส์ฟื้นตัว และติดลบน้อยลงเหลือแค่ -617.37 จุด มาปิดที่ 25,324.99 จุด ในวันที่ 13 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562 และการฟื้นตัวของดาวโจนส์ก็ต่อเนื่องมาถึงวันนี้ วันที่ 14 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562 ตามเวลาในประเทศไทยที่ Down Jones Futures +102 จุด มายืนอยู่ที่ 25,383 จุด ณ.เวลา 2:03 P.M. ในวันที่ 14 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562 ตามเวลาไทย
เหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ถ้าไม่เรียกว่า " หลังจาก " ทุบ! " แล้วก็ " ปั่น! " " แล้วจะเรียกอะไรหละ คร๊าบ พี่น้อง!
หมายเหตุ : ที่มาจาก ( www.bloomberg.com ) และ ( Yahoo Finance )