ห้องเม่าปีกเหล็ก

THANI: ถึงเวลาทำกำไร

โดย Khal
เผยแพร่ :
51 views

THANI: ถึงเวลาทำกำไร

 

 

ทบทวนปี 2567 THANI กล่าวว่า opex ที่เพิ่มขึ้นในปี 2567 มีสาเหตุจากผลขาดทุนจากค่าด้อยสินทรัพย์รอการขายจากราคารถบรรทุกมือสองที่ลดลง นอกจากนี้ ECL ที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุจากการตัดสินใจของผู้บริหารในการบริหารหนี้เสีย(management overlay) ซึ่งส่งผลให้ NPL coverage เพิ่มขึ้นเป็น 111% ในปี 2567 เพิ่มขึ้นจาก 98% ในปี 2566 ดังนั้น THANI จึงคาดว่า opex และ ECL จะลดลงในปี 2568 เนื่องจากเชื่อว่าตั้งสำรองมากพอสำหรับการรองรับราคาสินทรัพย์รอการขายและ management overlay แล้ว

 

แนวทางการเติบโตในปี 2568 ไม่น่าตื่นเต้น เป้าหมายของ THANI อ่อนแอกว่าของเราเล็กน้อยโดยเฉพาะเรื่องการเติบโตของสินเชื่อและ credit cost เป้าหมายปี 2568 ของ THANI รวมทั้ง 1) การอนุมัติสินเชื่อใหม่ที่ 1.65 หมื่นลบ. (เทียบกับที่ 1.67 หมื่นลบ. ในปี 2567 และประมาณการปี 2568 ของเราที่ 1.8 หมื่นลบ.) 2) credit cost ที่ 2.15% (เทียบกับที่ 2.17% ในปี 2567 และประมาณการปี 2568 ของเราที่ 2%) และ 3) สัดส่วน NPL ที่น้อยกว่า 3% (เทียบกับที่ 3.3% ในปี 2567 และประมาณการปี 2568 ของเราที่ 3.5%)

 

ตลาดรถบรรทุก 2 เดือนแรกของปี 2568 ดีขึ้นเล็กน้อย ข้อมูลช่วง 2 เดือนแรกของปี 2568 ของบริษัทฯ บ่งชี้ว่าอุปสงค์รถบรรทุกกลับมา แต่อุปสงค์เปลี่ยนไปยังรถบรรทุกมือสองมากกว่ารถบรรทุกใหม่ กลุ่มรถบรรทุกที่มีแนวโน้มการเติบโตดีขึ้น ได้แก่ กลุ่มเกษตรจากปรกฎการณ์ลานีญาและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่มากขึ้น ขณะเดียวกัน อุปสงค์รถบรรทุกในกลุ่มก่อสร้างอ่อนแอที่สุด นอกจากนี้ THANI ยังเห็นมูลค่าสินทรัพย์รอการขายและ NPL ที่ลดลงเล็กน้อยในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2568

 

อยู่ในเชิงอนุรักษ์นิยม รอผลการดำเนินงานครึ่งแรกปีนี้ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงTHANI กล่าวว่าบริษัทฯ คงมุมมองเชิงอนุรักษ์นิยมต่อการเติบโตของสินเชื่อใหม่ในครึ่งแรกปีนี้เพราะกำลังรอสภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี บริษัทฯ เตรียมความพร้อมในด้านทรัพยากรเพื่อเพื่อวางตำแหน่งของบริษัทฯ ให้สามารถรองรับกลยุทธ์การเติบโตของสินเชื่อในเชิงรุกมากขึ้นในครึ่งหลังปีนี้หากสถานการณ์ตลาดดีขึ้น โดยจะเพิ่มคุณภาพสินทรัพย์ ลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนและการจัดการวงเงินสินเชื่อกับธนาคาร

 

แนะนำ “ขาย” และ TP ที่ 1.46 บาท เราชอบปัจจัยพื้นฐานของ THANI แต่เนื่องจากราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 55% จากระดับต่ำสุด จึงทำให้มูลค่าหุ้นแพงด้วย P/BV ที่ 0.8 เท่า

 


Khal