ธปท.รับเศรษฐกิจไทยมี.ค.ชะลอตัว ลุ้นเม.ย.ฟื้น หลังรัฐคลายเกณฑ์คุมโควิด

 

 

.

นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยเศรษฐกิจและการเงินในเดือน มี.ค. พบว่า เศรษฐกิจไทยเดือนมี.ค.ชะลอลงเล็กน้อย ตามการใช้จ่ายในประเทศของภาคเอกชนที่ปรับลดลงทั้งการบริโภคและการลงทุน สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรม จากการระบาดของไวรัสโควิด สายพันธุ์โอไมครอน และต้นทุนการผลิตและค่าครองชีพที่สูงขึ้น

.

ขณะเดียวกันการใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนลดลงเล็กน้อยจากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลาง

.

ด้านการส่งออก ในเดือนมี.ค.อยู่ที่ 18.9% ขณะที่การนำเข้าขยายตัว 16.7% เพิ่มขึ้นจกาเดือนก่อน โดยเฉพาะสินค้าเกษตร โลหะ อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์และชิ้นส่วน ซึ่งเป็นผลจากทั้งอุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ยังขยายตัว และราคาสินค้าส่งออกบางประเภทที่ปรับตัวสูงขึ้น

.

อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าบางหมวดปรับลดลงบ้าง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ยังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิต และสินค้าเกษตรแปรรูป โดยเฉพาะน้ำตาลที่ส่งออกไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้า

.

ส่วนการท่องเที่ยวต่างชาติ พบว่า เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยอยู่ที่ 210,836 คน และเพิ่มขึ้นในเกือบทุกสัญชาติ หลังมีการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ทั้งนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวจากรัสเซียและยุโรปตะวันออกปรับลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย และยูเครน

.

ด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนมี.ค.อยู่ที่ 5.73% และเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 2% โดยเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นจากราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และราคาอาหารสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบ

.

ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเทียบดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่รุนแรงขึ้นเป็นสำคัญ

.

“ค่าเงินบาทที่อ่อนค่านั้น ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอ่อนค่า 2.5% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ โดยธปท.หลักๆจะดูในเรื่องความผันผวน แต่หากเป็นไปตามทิศทางพื้นฐานเศรษฐกิจก็จะไม่ได้ทำอะไร แต่หากเห็นความผันผวนผิดปกติก็จะมีการเข้าไปดูแล แต่อย่างไรก็ตาม ธปท.จับตาดูอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากอ่อนค่ามากๆ ก็จะกระทบต้นทุนนำเข้า ซึ่งจะซ้ำเติมราคาพลังงานที่สูงขึ้น และอาจมาสู่ผลของเงินเฟ้อได้ ซึ่งจะต้องติดตามในระยะต่อไป”นายสักกะภพ กล่าว

.

สำหรับเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/65 เศรษฐกิจไทยปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อนตามมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากอุปสงค์ประเทศคู่ค้าปรับดีขึ้น ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับเพิ่มขึ้นหลังมีการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ นอกจากนี้ เครื่องชี้การบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนยังปรับเพิ่มขึ้น แม้จะชะลอลงบ้างจากการระบาดของ โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนและต้นทุนการผลิตและค่าครองชีพที่สูงขึ้น

.

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจในเดือนเม.ย. มองว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศมีแนวโน้มปรับดีขึ้นบ้าง ตามการทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด แต่ยังได้รับแรงกดดันจากภาวะค่าครองชีพสูง

.

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิตและราคาสินค้าและบริการ การแพร่ระบาดของโควิดในประเทศ และมาตรการปิดเมืองสำคัญในจีนอาจกระทบต่อเศรษฐกิจซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย

.