ส่อง 4 อาณาจักรธุรกิจใหญ่ของไทย
“เจ้าของ” เดียวกัน แต่ทำ “ธุรกิจ” ต่างกัน
.
ในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ไม่จำเป็นต้องมีเพียงธุรกิจในลักษณะเดียวกันเท่านั้น แต่การขยายไปยังธุรกิจใหม่ๆ ที่แตกต่างจากเดิม นอกจากจะเป็นการกระจายความเสี่ยงแล้ว อาจเป็นการค้นพบกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่สามารถต่อยอดการเติบโตให้กับกลุ่มได้ในอนาคต Wealthy Thai จึงมีตัวอย่าง 4 กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มี “เจ้าของ” เดียวกัน แต่ทำธุรกิจ “ไม่เหมือนกัน” มาฝาก
.
สำหรับกลุ่มธุรกิจแรกที่จะหยิบยกมานำเสนอ เชื่อว่านักลงทุนหลายคนต้องคุ้นเคยเป็นอย่างดี นั่นคือ “กลุ่ม GULF” หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทพลังงานขนาดใหญ่ของไทย
.
นอกเหนือจากธุรกิจด้านพลังงานแล้ว ภายในกลุ่มฯ ยังประกอบไปด้วย ธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และดิจิทัล เซอร์วิส ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC รวมถึง ธุรกิจดาวเทียม จาก บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM อีกด้วย โดยทั้งกลุ่มฯ คิดเป็นมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) รวมกว่า 1,200,691.61 ล้านบาท (ไม่รวมมูลค่าของ INTUCH)
.
ถัดมาเป็น “กลุ่ม CK” หรือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของไทย ซึ่งนอกจากธุรกิจส่วนนี้แล้ว CK ยังเป็นเจ้าของ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนและทางพิเศษ เช่น รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สายสีน้ำเงิน และทางพิเศษศรีรัช เป็นต้น รวมถึงยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW ธุรกิจสาธารณูปโภคในการผลิตและจ่ายน้ำประปาด้วย โดยทั้งกลุ่มฯ คิดเป็นมูลค่าตามราคาตลาด รวมกว่า 198,347.33 ล้านบาท
.
ลำดับต่อมาเป็นกลุ่มธุรกิจภายใต้การถือหุ้นของ “ครอบครัวปราสาททองโอสถ” ซึ่งประกอบไปด้วย บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เครือข่ายโรงพยาบาลขนาดใหญ่ของไทย เช่น โรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลพญาไท เป็นต้น
.
นอกจากนี้ครอบครัวปราสาททองโอสถ ยังเป็นเจ้าของ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA ธุรกิจสายการบินบางกอกแอร์เวย์ และบริหารสนามบินสมุย รวมถึงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE ธุรกิจสื่อและความบันเทิงครบวงจรด้วย โดยทั้ง 3 บริษัท คิดเป็นมูลค่าตามราคาตลาด รวมกว่า 474,978.30 ล้านบาท
.
และสุดท้ายกลุ่มของ “EA” หรือ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และผู้พัฒนายานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบในไทย ซึ่งภายในกลุ่มประกอบด้วย บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ธุรกิจผลิตและรับจ้างผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และ บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD ธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งทั้ง 2 บริษัท EA เป็นเจ้าของผ่านการถือหุ้นของ บริษัท อีเอ โมบิลิตี โฮลดิง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยทั้ง 3 บริษัท คิดเป็นมูลค่าตามราคาตลาด รวมกว่า 243,611.76 ล้านบาท
