ห้องเม่าปีกเหล็ก

GPSC-BGRIM นำทัพหุ้นโรงไฟฟ้า

โดย อิคคิวซัง
เผยแพร่ :
217 views

GPSC-BGRIM นำทัพหุ้นโรงไฟฟ้า

ผ่านเกณฑ์เทคนิคภาครัฐรับซื้อไฟ

ด้านนักวิเคราะห์แนะ เน้น“ลงทุนมากกว่าตลาด”

 

.

หุ้นโรงไฟฟ้ากำลังมีข่าวดี ล่าสุดกกพ . ประกาศรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์ด้านเทคนิคสำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง 318ราย แบ่งออกเป็น 1.โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 0 ราย 2.โรงไฟฟ้าลม 20 ราย 3.โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่มีระบบกักเก็บพลังงาน 31 ราย และ 4.โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 267 ราย ซึ่งจะมีหุ้นไหนได้รับผลบวกบ้าง Wealthy Thai รวบรวมมาให้แล้ว

.

สะท้อนจากมุมมองนักวิเคราะห์บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กกพ. ประกาศรายชื่อผู้ผ่านเกณฑ์ความพร้อมด้านเทคนิคขั้นต่ำสำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง 4 ประเภท จำนวน 318 ราย แบ่งออกเป็น 1.โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ ไม่มีผู้ผ่านการพิจารณา

2.โรงไฟฟ้าพลังงานลม มีผู้ผ่านการพิจารณาจำนวน 20 ราย กำลังผลิตที่เสนอขายรวม 1,291MW จากการตรวจสอบ เบื้องต้น บริษัทที่มีโครงการที่ผ่านการพิจารณา ได้แก่ GUNKUL, BGRIM, GPSC และ SSP 3. โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีระบบกักเก็บพลังงาน มีผู้ผ่านการพิจารณาจำนวน 31 ราย กำลังผลิตที่เสนอขายรวม 1,254MW จากการตรวจสอบเบื้องต้น บริษัทที่มีโครงการที่ผ่านการพิจารณาได้แก่ GUNKUL และ BPP

.

และ 4.โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มีผู้ผ่านการพิจารณา 267 ราย กาลังผลิตที่เสนอขายรวม 5,184 MW ในเบื้องต้นบริษัทที่มีโครงการที่ผ่านการพิจารณาได้แก่ GUNKUL, BGRIM, GPSC, SSP, EGCO, CKP, BPP, BCPG, TSE, QTC, WHA, DEMCO, AKR และ SUN เป็นต้น โดยผู้ที่ไม่ผ่านการ พิจารณาสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 7 วัน (รู้ผลการอุทธรณ์ภายในวันที่ 1 มี.ค. 2566)

.

จากผลการพิจารณาเกณฑ์ความพร้อมขั้นต่ำ คาดเริ่มเห็นแรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีโครงการลมที่ผ่านการพิจารณา (GUNKUL, BGRIM, GPSC, SSP) เป็นลำดับแรก

เนื่องจากกำลังผลิตที่ ผ่านเกณฑ์ฯ ต่ำกว่ากำลังผลิตที่ กกพ. ประกาศรับซื้อที่ 1,500 MW ราว 14% ทำให้มีโอกาสสูงที่ทุกโครงการที่ผ่านการพิจารณาในรอบดังกล่าวจะได้รับคัดเลือกในรอบสุดท้าย (บนสมมติฐานไม่มีโครงการที่ผ่านการพิจารณาเพิ่มเติมหลังการอุทธรณ์)

.

ขณะที่กลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีโครงการแสงอาทิตย์ที่ผ่านการพิจารณา คาดยังไม่เกิดการเก็งกำไรที่มีนัยสำคัญเนื่องจากปริมาณกำลังผลิตที่ผ่านการพิจารณาสูงกว่ากำลังผลิตที่ กกพ. ประกาศรับซื้อที่ 2,368 MW ราว 119% ทำให้การแข่งขันรุนแรงกว่าโรงไฟฟ้าพลังงานลมมาก (ยังมีโอกาสที่โครงการส่วนใหญ่จะถูกคัดออกในการคัดเลือกรอบสุดท้าย)

.

ประกาศผู้ผ่านรอบเทคนิคของโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ กกพ. ได้มีการประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านเกณฑ์ความพร้อมด้านเทคนิคขั้นต่ำสำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม โดยมีผู้ผ่านการพิจารณาจำนวน 18 ราย กำลังผลิตที่เสนอขายรวม 142MW สูงกว่ากำลังผลิตที่ กกพ. ประกาศรับซื้อที่ 100MW แม้จะยังมีปริมาณกำลังผลิตที่ผ่านเกณฑ์ฯ สูงกว่าปริมาณรับซื้อของ กกพ.

.

แต่คาดกลุ่มหุ้นที่มีประสบการณ์ในการทำโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม เช่น ETC, BWG และ CV เป็นกลุ่มที่มีโอกาสได้รับกำลังผลิตจากการรับซื้อรอบดังกล่าวสูง เพราะโรงไฟฟ้าอุตสาหกรรม จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์เพื่อคัดแยกขยะอุตสาหกรรมให้สามารถเผาไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (การเผาไหม้ต้องให้ความร้อนถึงเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อผลิตไฟฟ้า)

.

ดังนั้นคงน้ำหนักการลงทุนของกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ “มากกว่าตลาด” คาดเริ่มเห็นการเก็งกำไรเข้ามาในกลุ่มโรงไฟฟ้าหลังผลการคัดเลือกโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบใหม่เริ่มมีความชัดเจน ทำให้กลุ่มโรงไฟฟ้ามีโอกาส Outperform ตลาดได้ใน ช่วง 2-3 เดือน ข้างหน้า แนะนำ GULF (ราคาเป้าหมาย 66 บาท), GUNKUL (ราคาเป้าหมาย 5.90 บาท) และ SSP (ราคาเป้าหมาย14.40 บาท) ให้เป็น Top Picks สำหรับการเก็งกำไรประเด็นดังกล่าว

.

โดย GULF และ GUNKUL เป็นผู้ที่มีโอกาสได้รับกาลังผลิตใหม่จากการรับซื้อรอบดังกล่าวมากที่สุด (ทั้งโครงการลมและแสงอาทิตย์) ขณะที่ SSP เป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีโอกาสได้รับกำลังผลิตเพิ่มเติมไม่ต่ำกว่า 50Mwe เทียบกับกำลังผลิตในปัจจุบันที่ราว 232MWe

 

 


อิคคิวซัง