ไม่อยากตกเป็นเหยื่อของ Hacker วันนี้น้องสติมาบอก 3 ขั้นตอนนี้ จะช่วย “ลดความเสี่ยง” จากการโดน “แฮ็ก"
แต่ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า Meta นั้น มีเครือใหญ่ๆ ที่เรารู้จักคือ Facebook , Instagram , WeChat ดังนั้นเมื่อ Facebook เพจของเราโดนแฮ็ก ก็อาจจะเป็นภัยต่อ Instagram ที่เชื่อมโยงถึงกัน การที่เรามีสติและมีความรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ก็จะช่วยให้เราพร้อมรับมือกับภัยออนไลน์ได้เป็นอย่างดีครับ
ปกป้องบัญชีผู้ใช้ส่วนตัว
1.) ไม่ส่งต่อและเปิดอีเมลจาก Meta (Facebook) ให้บุคคลอื่นดู เพราะอีเมลจาก Meta มักมีข้อมูลส่วนตัวอยู่
2.) เปิดการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเข้าสู่ระบบ เพื่อสามารถเช็กได้ว่า มีใครเข้าสู่ระบบบ้าง ใช้อุปกรณ์อะไรในการเข้าสู่ระบบ บุคคลที่เข้าสู่ระบบเรารู้จักไหม เป็นต้น
3.) ใช้การยินยันตัวตน 2 ชั้น แบบ Two-Factor Authentication หรือ 2FA
การจะ Add Admin เป็นผู้ดูแลเพจได้ จะต้องใช้ Facebook ส่วนตัว ดังนั้นเพื่อป้องกันการโดนแฮ็กตั้งแต่เนิ่น ๆ ควรดำเนินการด้วยวิธีการยืนยันในบัญชีส่วนตัวแบบ 2 ชั้น คือ ชั้นที่ 1 ล็อกอินด้วยรหัสผ่านตามปกติ
ขั้นที่ 2 ยืนยันตัวผ่านทางรหัส OTP ซึ่ง 1 รหัสใช้งานได้ 1 ครั้ง และมีอายุการใช้รหัสสั้นมาก ประมาณ 15 วินาที
น้องสติแนะนำวิธีการเปิดใช้งาน 2FA กับบัญชี Facebook ส่วนตัว ตามขั้นตอนนี้เลยครับ
1.) เข้าไปที่ https://www.facebook.com/security/2fac/setup/intro
2.) เลือกยืนยันตัวผ่าน App หรือ SMS ถ้าให้ง่าย คือ ยืนยันตัวผ่าน SMS แล้วทำตามขั้นตอน
3.) เปิด Setting & Privacy ในมือถือของตัวเอง
4.) เลือก Privacy Shortcut Use two-factor authentication
5.) กด Get Started แล้วทำตามขั้นตอน
การหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง (Phishing)
คือ การหลอกลวงเพื่อขโมยข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต เช่น รหัสบัตรประชาชน , รหัส OTP , รหัสผ่าน โดยที่ใช้จิตวิทยาร่วม ส่วนใหญ่มักมาในรูปแบบของอีเมลและเว็บไซต์ เช่น เปลี่ยนแปลงโดเมนเนมของอีเมล เช่น เปลี่ยนจาก .com เป็น .cor หากไม่สงสัยก็จะไม่รู้เลย
แล้วพวกหลอกลวงมักมาในรูปแบบไหน น้องสติลิสต์ตัวอย่างมาให้ด้านล่าง แอบอ้างเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ
แอบอ้างว่าเป็นธนาคาร
มีไฟล์แนบมาให้เปิด พอเปิดอาจจะนำมาซึ่งไวรัส
โดนหลอกแล้วทำยังไง ?
อย่างแรกน้องสติอยากให้ทุกคนใจเย็นๆ และค่อยๆทำตามขั้นตอนถัดไปนะครับ
1.) เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ทั้งหมด และไม่นำชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชนมาตั้ง (เพราะ Hacker น่าจะเดาทางคุณได้ถูกหมดแล้ว)
2.) ออกจากระบบทุกอุปกรณ์ และล็อกอินใหม่
3.) กู้คืนบัญชี
4.) ตรวจสอบไปที่กิจกรรมที่ทำในเพจ และ ใน Facebook ส่วนตัวล่าสุด
* เพื่อความปลอดภัย หลังจากโดนฟิชชิ่งแล้ว ควรจะระงับบัตรเครดิต ที่ผูกไว้สำหรับการซื้อ Ads ของ Facebook
ตรวจสอบความปลอดภัยเป็นประจำ เสียเวลานิด เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของเพจไว้ครับ
น้องสติแนะนำให้ทำตาม 4 ข้อนี้ ลดความเสี่ยงโดน “แฮ็ก” ทำได้ทั้ง Facebook ส่วนตัว และ Facebook Page
1.) ใช้ฟีเจอร์ตรวจสอบความปลอดภัยบนแพลตฟอร์มของ Facebook คลิกที่ https://www.facebook.com/help/799880743466869/
2.) ตรวจสอบประวัติเข้าสู่ระบบเสมอ เพื่อตรวจสอบการเข้าสู่ระบบที่ไม่น่าไว้วางใจ
3.) ตรวจสอบแอปพลิเคชันเกมที่เข้าไปเล่นตาม Social อยู่เป็นประจำ เพราะบางที Hacker จะแฝงตัวมาในรูปแบบนั้น เช่น เล่นเกม Quiz ใน Facebook โดยที่ก่อนเล่น ระบบจะให้เรายืนยันการเชื่อมต่อกับ Facebook การเชื่อมต่อนั้นแหละ ที่จะเข้ามาขโมยข้อมูลส่วนตัวเรา
4.) ลบข้อมูลที่ไม่น่าไว้ใจออกไป