GPSC-BGRIM-GULF จ่อรับอานิสงส์ กกพ.ส่งสัญญาณขึ้น Ft งวดก.ย.สูงกว่าคาด

โบรกฯ ชู “GPSC-BGRIM-GULF” เด่น รับผลบวก หลัง กกพ.จ่อปรับขึ้นค่า Ft งวด ก.ย.มากกว่าคาด เชื่อหนุนผลงานครึ่งปีหลังฟื้น หลังครึ่งปีแรกยังไม่สะท้อนกับต้นทุน
.
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวในการปาฐกถา "ไขข้อข้องใจ...รับมือค่าไฟครึ่งปีหลัง" ว่า แนวโน้มการปรับค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า Ft) งวดสุดท้ายของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค.65) มีโอกาสปรับสูงขึ้นกว่าประมาณการเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้นราว 40 สต./หน่วย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท และ สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซเพิ่มสูงขึ้นนั้น
.
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด เปิดเผยกับ “สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” ว่า จากกรณีดังกล่าวส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มีงานการจำหน่ายให้กับลูกค้าประเภทอุตสาหกรรม (IU) โดยเฉพาะ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC และ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ซึ่งมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าประเภทดังกล่าวมากที่สุด
.
ผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกคาดจะยังย่ำแย่อยู่ เนื่องจากการปรับขึ้น Ft ยังไม่สะท้อนต่อต้นทุนที่สูงขึ้น แต่เชื่อว่าในไตรมาส 3 และ 4 นี้ผลการดำเนินงานจะปรับตัวดีขึ้นได้
.
ในขณะที่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ยังมีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าประเภทดังกล่าวน้อยอยู่ จึงอาจได้รับประโยชน์ไม่ได้เต็มที่เหมือนกับ GPSC และ BGRIM
.
นายพูนพัทธ์ ไชยคำหาญ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์สถาบัน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” ว่า ทั้ง GPSC , BGRIM และ GULF จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการปรับขึ้นค่า Ft โดยสัดส่วนกลุ่มลูกค้าดังกล่าวใน GPSC มีมากสุด ถึง 50% ส่วน BGRIM มีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าดังกล่าวประมาณ 25% และ GULF มีสัดส่วนกลุ่มลูกค้าดังกล่าวประมาณ 10%
.
“GPSC จะได้รับผลประโยชน์มากสุด จากการที่มีลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเยอะสุด เมื่อเทียบกับ 2 บริษัทที่เหลือ”นายพูนพัทธ์ กล่าว
