ห้องเม่าปีกเหล็ก

‘หุ้นกู้’ คึกเอกชนแห่ระดมทุน หวังตุนสภาพคล่อง

โดย dave
เผยแพร่ :
67 views

‘หุ้นกู้’ คึกเอกชนแห่ระดมทุน หวังตุนสภาพคล่อง

“เอกชน” หันระดมทุนผ่านหุ้นกู้ หลังดีมานด์เริ่มสูงขึ้น จากดอกเบี้ยเงินฝากที่ต่ำ ทั้งสถานการณ์โควิดในประเทศเริ่มคลี่คลาย “ไทยบีเอ็มเอ” มั่นใจยอดระดมทุนปีนี้ไม่ต่ำกว่า 8 แสนล้าน หลังภาคเอกชนเริ่มหันมาระดมทุนในตลาดนี้มากขึ้น

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการลงทุนทั้งตลาดทุน ไม่เว้นแม้ตลาดตราสารหนี้ ที่นักลงทุนแห่ไถ่ถอนหน่วยลงทุนกองทุนตราสารหนี้ จนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)ต้องประกาศปิดกองทุน  ยิ่งสร้างความกังวลเรื่องสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้มากขึ้น  ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องออกมาตรการดูแลผ่านการจัดตั้งกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ (BSF)ขึ้นมา 

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าคลี่คลายลงมาก โดยตลาดตราสารหนี้เริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้น สะท้อนจากหุ้นกู้ที่ออกเสนอขายได้รับการตอบรับที่ดีมาก ซึ่งเสนอขายได้เต็มจำนวนและจองซื้อหมดภายในไม่กี่วันที่เปิดเสนอขาย  หลังนักลงทุนคลายความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศเริ่มคลี่คลายลง ประกอบกับ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่อยู่ในระดับต่ำ จึงทำให้นักลงทุนกลับมาสนใจลงทุนในหุ้นกู้มากขึ้น ซึ่งต่างจากเดือนเม.ย. และเดือนพ.ค.ที่ส่วนใหญ่บริษัทเสนอขายหุ้นกู้แล้วขายไม่หมด

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า สถานการณ์การลงทุนในตราสารหนี้(หุ้นกู้)กลับมาดีขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนผ่านหุ้นกู้ของบริษัทขนาดใหญ่ ที่มีเรทติ้่งสูง ได้รับการตอบรับที่ดีมากขายหมดเร็ว แม้แต่หุ้นกู้ที่มีเรทติ้งต่ำกว่าระดับอินเวสต์เมนท์เกรด หรือไม่มีเรทติ้ง ก็ได้รับการตอบรับที่ดีขายได้ตามเป้าเช่นกัน เนื่องจาก นักลงทุนคลายกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 

ประกอบกับดอกเบี้ยเงินฝากที่อยู่ระดับต่ำ ทำให้นักลงทุนหันหาแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก   ทำให้บริษัทที่เคยเลื่อนการออกหุ้นกู้ไปช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก กลับมาระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ ทั้งเพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่จะครบกำหนด และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนและขยายธุรกิจ 

“ในส่วนของหุ้นกู้เรทติ้งที่ต่ำกว่าอินเวสต์เมนท์เกรดหรือหุ้นกู้ที่ไม่มีเรทติ้งนั้น นักลงทุนก็จะมีความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น โดยมีการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล และเลือกลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทที่นักลงทุนมั่นใจในตัวบริษัทและธุรกิจของผู้ออก ซึ่งหุ้นกู้ต่ำกว่าอินเวสต์เมนท์เกรด หรือไม่มีเรทติ้งที่เสนอขายในช่วงเดือนที่ผ่านมานั้นส่วนใหญ่เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็สามารถขายได้หมดแม้ภาพรวมอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ไม่ค่อยดี  ส่วนตัวคาดเกิดจากนักลงทุนประเมินแล้วว่าบริษัทนั้นมีโครงการที่ดี มีการจัดแคมเปญกระตุ้นการขาย ทำให้สามารถขายโครงการได้ ส่งผลบริษัทมีกระแสเงินสดเข้ามาต่อเนื่อง จึงมองว่าโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้น้อย จึงมั่นใจเข้ามาซื้อหุ้นกู้”

ทั้งนี้หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้จะมีบริษัทระดมทุนโดยการออกหุ้นกู้ไม่ต่ำกว่า 800,000 ล้านบาท หลังจาก 7 เดือนแรกปี 2563 เสนอขายไปแล้วรวม 397,218 ล้านบาท เฉพาะเดือน ก.ค. ยอดระดมทุนกว่า 76,667 ล้านบาท ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมีบริษัทต่างๆเสนอขายหุ้นกู้เดือนละประมาณ 80,000-90,000 ล้านบาท  

โดยเพียงสัปดาห์แรกของเดือนส.ค. มีบริษัทเสนอขายหุ้นกู้แล้วจำนวน 9,850 ล้านบาท แบ่งเป็น การเสนอของ บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท และ บริษัทลีสซิ่ง ไอซีบีซี(ไทย) มูลค่า 4,850 ล้านบาท  และ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ซัพพลาย เสนอขาย 5,000 ล้านบาท ซึ่งขาย 4-6 ส.ค.

ส่วนบริษัทที่เตรียมเสนอขายเดือนนี้ ประกอบด้วย  บริษัท เบทาโกร เสนอขาย 6-10 ส.ค. มูลค่าเสนอขายรวมไม่เกิน 4,000 ล้านบาท,บมจ.ช. การช่าง (CK) 10-13 ส.ค. มูลค่าไม่เกิน 5,000 ล้านบาท 

  บริษัท ซีพีเอฟ(ประเทศไทย) 17 -19 ส.ค. มูลค่า 20,000 ล้านบาท ,บมจ. อนันดาดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN)14 -18 ส.ค. มูลค่า 1,000 ล้านบาท , บมจ. ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) เสนอขาย 14-18 ส.ค.มูลค่าไม่เกิน 4,000 ล้านบาท , บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF)ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ฯลฯ ส่วนในเดือนก.ย. บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC)จะเสนอขาย 5,000 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตามแม้ต้นทุนการออกเสนอขายหุ้นกู้จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่มาก เพราะถูกชดเชยจากอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานที่ปรับตัวลดลง ดังนั้น ยังทำให้บริษัทต่างๆยังให้ความสนใจมาระดมทุนในการออกเสนอขายหุ้นกู้ เพราะ สามารถฟิกดอกเบี้ยจ่ายได้ในระยะยาว และสามารถที่จะระดมทุนได้มูลค่าที่สูง 

นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจลงทุนหุ้นกู้ดีขึ้น กว่าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ที่กังวลเรื่องของสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้   และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่อยู่ระดับต่ำนั้น ทำให้นักลงทุนสนใจลงทุนในหุ้นกู้มากขึ้น  รวมถึงหุ้นกู้ Non-Investment Grade และหุ้นกู้ที่ไม่มีเรทติ้ง แต่ก็จะเลือกลงทุนหุ้นกู้ของบริษัทที่นักลงทุนมีความมั่นใจ โดยพิจารณาจากมีผู้ถือหุ้น ธุรกิจมีกระแสเงินสดที่ดีสามารถจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นได้ จึงกล้าที่จะเข้ามาซื้อลงทุน

“บล.โกลเบล็ก มีลูกค้าพอควรที่จะให้เราเป็นผู้เสนอขายหุ้นกู้ให้ แต่ก็จะคัดเลือกบริษัทที่เราประเมินแล้วว่าธุรกิจที่มีแนวโน้มไปต่อได้ ยอดขายที่ดี ยังมีกำไรและกระแสเงินสดที่ดี ที่เสนอขายแล้วนักลงทุนสนใจเข้ามาจองซื้อ”

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


dave