มาอัพเดทตลาดภาคบ่ายกันครับ

12 กรกฎาคม 2562 -- Smart Pick : Yuanta Securities

Smart Pick

กลยุทธ์วันนี้

แกว่งตัว Sideway โดยมีแนวต้านบริเวณ 1,750 จุด

ระดับความเสี่ยงของตลาด
High Volatility

Weight: Stock 50 %, Cash 50 %

สะสม AMATA
ราคาปิด 24.50 บาท
ราคาเหมาะสม 25.00 บาท
เราประเมินว่าหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ได้ Sentiment บวกโดยตรง จากความคืบหน้าของปัจจัยการเมือง หลังโปรดเกล้าแต่งตั้งครม.แล้ววานนี้ โดยลำดับถัดไปติดตามการแถลงนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ คาดช่วงวันที่ 24-26 ก.ค.
AMATA ได้ประโยชน์โดยตรงเนื่องจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) เป็นนโยบายหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล ย่อมเป็นบวกต่อมูลค่าที่ดินในมือของ AMATA ขณะที่แนวโน้มกำไร 2Q62 คาดเติบโต YoY และ QoQ เป็นปัจจัยหนุนที่รออยู่

เก็งกำไร SEAFCO
ราคาปิด 8.30 บาท
ราคาเหมาะสม 10.10 บาท
หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างได้ Sentiment บวก จากความคืบหน้าของปัจจัยการเมือง และคาดว่าแผนลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐฯจะเปิดประมูลต่อเนื่องเพื่อผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลบวกโดยตรงต่อผู้ประกอบธุรกิจงานฐานราก เช่น SEAFCO
เราคาดกำไรปกติ 2Q62 ที่ 106 ลบ. +14% YoY จากแรงหนุนของการรับรู้รายได้โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม, ชมพู รวมทั้งโครงการ The One Bangkok และ The Bangkok Mall ขณะที่ Backlog สิ้น 2Q62 อยู่ที่ 2 พันลบ. รองรับรายได้ปี 2562 แล้วทั้งจำนวน

สะสม KKP
ราคาปิด 71.75 บาท
ราคาเหมาะสม 85.00 บาท
KKP รายงานงบ 2Q62 วันที่ 17 ก.ค. เราคาดกำไรปกติ 1.44 พันลบ. เติบโต +18% QoQ ขณะที่เงินปันผล 1H62 คาดหุ้นละ 2.00 บาท ให้ Yield 2.8%
ราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ PER2562 ที่ 9.6 เท่า และให้ Yield สูงถึง 7.7% ต่อปี

เก็งกำไร OSP
ราคาปิด 36.75 บาท
แนวต้านทางเทคนิค 38.00 บาท
ภาพทางเทคนิคเป็นบวกหากปรับตัวผ่าน 36.75 บาทได้ มีโอกาสขึ้นทดสอบ 38.00 บาทเป็นแนวต้านถัดไป แนวรับ 36.25 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 35.25 บาท
แนวโน้มกำไรปกติ 2Q62 เบื้องต้นคาดที่ 800 ลบ. +40% YoY จากแรงหนุนของธุรกิจเครื่องดื่มในประเทศ และการใช้กำลังการผลิตเต็มที่ของโรงเตาหลอมเศษแก้ว และ C-VITT

Profit Taking n.a.

กลยุทธ์วันนี้
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ค่อนข้างผันผวนและปรับตัวขึ้นน้อยกว่าที่เราคาด โดยระหว่างวัน SET INDEX ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดบริเวณ 1,748.15 จุด (+8.72 จุด) แต่สุดท้าย ปิดบวกเพียงแค่ 1.02 จุดที่ 1,740.45 จุด ในทางตรงกันข้าม ตลาดหุ้นสหรัฐฯกลับทำผลงานได้ดี สะท้อนจากดัชนีดาว โจนส์ของสหรัฐฯ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทะลุผ่านด่าน 27,000 จุด

ด้าน Dollar Index แกว่งตัวผันผวนค่อนข้างมากเช่น ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย ลงไปถึงจุดต่ำสุดบริเวณ 96.795 ก่อนจะกลับมาปิดทรงตัวที่ 97.050 ขณะที่ราคาทองคำ ปรับตัวลง 0.41% และกองทุน iShare MSCI Thailand ETF ปรับตัวลง 0.79% ดูเหมือนว่า ความคาดหวังเชิงบวกต่อถ้อยแถลงของประธาน Fed อ่อนแรงลงในระยะสั้น และเกิดการ Sell on Fact ออกมาในสินทรัพย์ต่างๆ หลังจากทั้งตลาดหุ้นและทองคำ ปรับตัวขึ้นมารอข่าวตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ แต่สัญญาณบวกของตลาดหุ้นไทย คือ ทั้งกองทุนในประเทศและนักลงทุนต่างชาติ เป็นผู้ซื้อสุทธิหลักวานนี้ ราว 2.6 พันล้านบาท และ 1.2 พันล้านบาท ตามลำดับ

ประเด็นสงครามการค้า อาจจะกลับมามีน้ำหนักมากขึ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯส่งสัญญาณ เร่งจีนให้ซื้อสินค้าเกษตรตามที่เคยตกลงกันไว้ ทั้งนี้ เช้านี้ ติดตามการรายงานยอดนำเข้า-ส่งออกของจีน เดือน มิ.ย. โดยตลาดคาดส่งออก หดตัวราว 1.4% YoY และคาดนำเข้า หดตัว 4.6% YoY

แนวต้านหลักของ SET INDEX บริเวณ 1,750 จุดยังคงทำงานได้ดี คาดว่า วันนี้ SET INDEX จะแกว่งตัวออกข้างในกรอบ 1,735-1,750 จุด กลยุทธ์การลงทุน ในภาวะที่ปัจจัยแวดล้อมทรงตัว เราแนะนำเลือกซื้อหุ้นรายตัว (Selective Buy) สำหรับดัชนีเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์หน้า ได้แก่ GDP 2Q62 ของจีน (15 ก.ค.) และยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ (16 ก.ค.)

Strategist Team

Padon Vannarat
Strategist 662-009-8060

Natapon Khamthakrue
Strategist 662-009-8059

Piyapat Patarapuvadol
Strategist 662-009-8062

Suvichak Thappang
Assistant Strategist