
ตลาดหุ้นไทยเปิดภาคเช้าในแดนบวก ด้วยดัชนียืนเหนือ 1,750 จุด จากแรงซื้อแบบรายตัว รวมทั้งหุ้นบิ๊กแคปกลุ่มพลังงานที่มีผลต่อดัชนี
บล.กสิกรไทย ระบุว่า Fund Flow เริ่มไหลกลับเข้ามาตามคาด ตามสถิติแล้วมีโอกาสสูงที่จะซื้อต่อเนื่องอีกในวันนี้ และซื้อยาวต่อไปอีกใน 10 วันข้างหน้าด้วยยอดสะสมเกิน 2 พันล้านบาท ด้วยความน่าจะเป็นเกิน 70%
ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิออกจากตลาดหุ้นไทยมาตั้งแต่ปี 2556 - ปัจจุบันกว่า 5.5 แสนล้านบาท แต่ในช่วงเวลาเดียวกันกลับซื้อสุทธิในประเทศในกลุ่ม TIP ทั้งอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในเหตุผลหลักที่การเคลื่อนไหวของต่างชาติในไทยที่ผิดแปลกไปจากต่างประเทศ คือปัญหาการเมืองในประเทศ
ดังนั้นการเลือกตั้งที่ชัดเจนน่าจะสร้างความเชื่อมั่นและทำให้นักลงทุนต่างประเทศกลับมาซื้ออีกครั้ง
บล.กสิกรไทย ให้ข้อมูลว่า นักลงทุนต่างประเทศได้เริ่มกลับเข้ามาซื้อจริงในวันที่ 13 ก.ย.61 กว่า 2 พันล้านบาท ถือเป็นการซื้อที่มีนัยสำคัญครั้งแรกในรอบ 23 วัน และเข้าซื้อต่อเนื่องอีกใน 3 วันให้หลังรวมซื้อ 4 วันติดต่อกัน 4 พันล้านบาท เป็นรูปแบบการซื้อที่ดูดีที่สุดในรอบเดือนครึ่ง
ด้านปัจจัยต่างประเทศ ข้อพิพาทการค้ายังไม่จัดกันรุนแรง ล่าสุดจีนตอบโต้เบาๆด้วยการเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐเพิ่ม 10% วงเงิน 6 หมื่นล้านเหรียญ เปิดความหวังการเจรจา
ส่วนความกังวลเศรษฐกิจ Emerging Market (EM) ตอนนี้สงบชั่วคราว ปัจจัยในประเทศการเมืองเลือกตั้งชัด ตัวเลขเศรษฐกิจของไทยที่ดีเกือบที่สุดใน EM ทั้งหมดจะเหตุให้ต่างชาติมีโอกาสกลับมาซื้อคืนอีกครั้ง
จากสถิติการเคลื่อนไหวของนักลงทุนต่างประเทศตั้งแต่ปี 2552-18 ก.ย.61 พบว่า การเข้าซื้อของต่างชาติ 4 วันติดต่อกันจะทำให้มีโอกาสสูงถึง 77% ที่จะเข้าซื้อต่อในวันถัดมา ก่อนจะซื้อต่อในช่วงเวลา 5 และ 10 วันถัดไปด้วยยอดสะสมเกิน 2 พันล้านบาทด้วยความน่าจะเป็นที่สูงถึง 70%
ฝ่าย KS Research ยังแนะกลยุทธ์รับ Fund Flow ไหลเข้าที่เหมาะสมที่สุดคือให้เน้นไปที่หุ้น%Foreign Ownership ต่ำ หรือหุ้นที่ต่างชาติมีสถานะการถือครองน้อย
กลุ่มหุ้นนี้จะมีข้อดี 2 อย่าง 1) หากต่างชาติไม่กลับมาซื้อ แต่รอดักขายอีกกลุ่มหุ้นนี้จะมีความเสี่ยงต่ำที่จะถูกขาย เพราะมีของน้อยอยู่แล้ว
ส่วนข้อดีที่ 2) ในกรณีที่เป็นอย่างที่คาดหวังคือต่างชาติกลับมาซื้อจริง เชื่อว่าจะเน้นมาซื้อคืนในหุ้นที่ตัวเองได้ขายไปเยอะ
หลังจากให้คำแนะนำกลยุทธ์แล้ว KS Research ได้คัดกรองหุ้นที่มี %Foreign Ownership ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี หรือต่ำกว่า -1SD และมี Upside สูงมีตัวที่น่าสนใจดังนี้ BBL KTB , AP , QH , SIRI ,SPALI ,LH ,ADVANC ,DTAC ,MEGA ,ROBINS ,STEC HANA ,AMATA ,MTC
ในทางตรงกันข้ามกลุ่มหุ้นที่ %Foreign Ownership สูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปีหรือเกินกว่า 1SD และมี Upside ต่ำ จะมีความน่าสนใจน้อยและมีความเสี่ยงที่จะเคลื่อนไหวแย่กว่าตลาด เช่น AAV BCH CHG GLOBAL TCAP CKP IRPC TOP BCP BCPG
ขณะเดียวกัน Block Trade เริ่มกลับมามีบทบาทอีกครั้ง คาดจะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนดัน SET Index เกิน 1,750 จุด หลังวานนี้วงเงิน Block Trade พุ่งขึ้นมาเกิน 3 หมื่นล้านบาท ถือว่ามากที่สุดในรอบ 3 เดือน สะท้อนนักลงทุนที่ลงทุนผ่าน Block Trade เริ่มตอบสนองต่อภาพการฟื้นตัวของตลาดและกล้าเพิ่มน้ำหนักการลงทุนมากขึ้น
สำหรับหุ้นยอดนิยมวงเงิน Block Trade ขึ้น Peak ในช่วง ก.พ.61 ก่อนจะฟุบลงมาตามแรงขายทำกำไรในช่วง มิ.ย.-ก.ค.61 จะเป็นหุ้นที่นักลงทุนจะกลับมาซื้อผ่าน Block Trade อีกครั้งได้แก่ ADVANC AMATA AOT BANPU BBL BEM IVL PTT PTTEP PTTGC SCB SCC TMB
ขณะที่ SET Index ปรับขึ้นมาเจอแนวต้านใหญ่ 1,750 จุด อาจทำให้ดัชนีต้องพักตัวต่ำกว่าระดับดังกล่าวไปอีกสักพัก แต่คาดว่าจะยืนอยู่ได้ไม่ต่ำกว่า 1,735 จุด
ถ้าฝรั่งกลับมาดีๆ น่าสนใจหุ้นเหล่านี้จะขึ้นไปอีกแค่ไหนกัน ?