ห้องเม่าปีกเหล็ก

เล่าเท่าที่รู้ ในช่วงCovid-19 ตอน ตีแตกวอลสตรีท

โดย Shiny white
เผยแพร่ :
66 views

เล่าเท่าที่รู้ ในช่วงCovid-19
ตอน ตีแตกวอลสตรีท

ที่มา : Seminar knowledge by Amorn

-------------------------------------------------------

Image may contain: 2 people, text

ช่วงนี้จะเริ่มกลับมาทบทวนความรู้ด้านการลงทุนรวมถึงเทรนของอุตสาหกรรมในอนาคต
เช่น เทคโนโลยี วันนี้จะพูดถึงหนังสือ Beating the Street ซึ่งแต่งโดย Peter Lynch และ John Rothchild
ซึ่งถือเป็นหนังสือText bookเล่มแรกๆที่ได้มีโอกาสอ่าน ตอนนั้นยังไม่มีแปลในไทย เลยแวะไป
ร้านหนังสือที่Airport กัวลาลัมเปอร์ ซื้อมาอ่าน ราคาไม่ค่อยแพงนัก
พอคุณWeb พรชัย รัตนนนชัยสุข แปลเรียบเรียงก็ไม่พลาดที่อ่านฉบับแปล
รับประกันการแปลว่าได้ครบถ้วนตามต้นฉบับเลย ซึ่งเล่มนี้หายากแล้วถือเป็นRare itemไปแล้ว
แต่อ่านตอนนั้น ที่ประสบการณ์การลงทุนยังน้อย พอมาถึงตอนนี้ก็ลืมไปเยอะแล้ว
พอดร กุศยา มาแปลรอบล่าสุด ก็ลองอ่านดูพบว่า ไม่แพ้ที่คุณWebแปล
หนังสือเล่มนี้ เป็นเล่มที่สามของ Peter Lynch ต่อจาก Learn to earn และ One Up on Wall street.

ก็เลยคิดว่าน่าจะสรุปมาฝากแฟนเพจ เผื่อจะได้ประโยชน์ ไม่มากก็น้อยครับ
ตอนนี้ถือเป็นตอนแรก ของหนังสือ ซึ่งจะพูดถึง หลักการของปีเตอร์ ข้อที่ 1 ถึง 6
1.เมื่อจำนวนการดูโอเปร่ามากกว่าจำนวนการดูฟุตบอลสามต่อหนึ่ง
นั่นคือ มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับชีวิตคุณ
คุณLynch พูดถึงช่วงที่ยังทำงานกับสำนักงานกองทุน Fidelity นั้นมุ่งแต่ทำงานจน
พูดติดตลกกับหมอว่า การออกกำลังกายอย่างเดียวตอนนั้นคือ การขัดฟันด้วยไหมขัดฟัน
ซึ่งเป็นสัญญาณว่าควรต้องทำอะไรสักอย่างก่อนชีวิตจะพัง สุดท้ายก็ขอเกษียณจากงานประจำ
มาใช้ชีวิตกับครอบครัว และมาช่วงองค์กรการกุศลบริหารพอร์ตลงทุน

2.สุภาพบุรุษที่ชื่นชอบตราสารหนี้จะไม่รู้ว่าพวกเขาพลาดอะไร
ซึ่งจะสื่อว่าควรลงทุนในหุ้นสัดส่วนที่มากกว่าตราสารหนี้ เพราะในระยะยาว
ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่ามาก โดยปกติคิดต่อปี ผลตอบแทนจะมากกว่า2เท่า
แต่ในระยะยาว เช่น 20 ปี พอร์ตหุ้นจะเติบโตมากกว่า4 เท่า

3.ไม่ควรลงทุนในแนวคิดใดๆ ที่คุณไม่สามารถวาดภาพมันได้ด้วยดินสอสี
ข้อนี้จะสื่อว่า หุ้นหรือกองทุนรวมที่เราจะลงทุนนั้น เราต้องเข้าใจมันเป็นอย่างด
ก่อนการตัดสินใจลงทุน และ บริษัทต้องเข้าใจง่ายอย่างเด็กนักเรียนก็เข้าใจมันได้

4.คุณไม่สามารถมองอนาคตได้โดยผ่านกระจกมองหลัง
จากวิกฤตการCovid-19ที่ผ่านมา ถ้าเรามองแต่การปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงของตลาดทั่วโลก
เราไม่เพียงแต่ทุกข์ใจกับการล่มสลายของตลาดหุ้นเท่านั้น แต่เราควรมองหาหุ้นอื่นเพื่อลงทุน
ในปีถัดไป ซึ่งได้พูดคุยกับนักลงทุนหลายท่าน ก็ได้เข้าซื้อบริษัทที่ดีในช่วงมีนาคมที่ผ่านมา
แต่ถือจนถึงตอนนี้ บางตัวได้ถึง3-4 เด้งครับ

5.ไม่มีเหตุผลที่จะจ่ายเงินเพื่อฟังโยโยมาบรรเลงทางวิทยุ
ซึ่งโยโยมา เป็นนักดนตรีสัญชาติUSเชื้อสายจีนที่มีชื่อเสียงด้านเชลโล
การมาฟังทางวิทยุ จริงๆไม่ควรต้องเสียเงิน
เปรียบกับการลงทุนในกองทุนรวมพันธบัตร ซึ่งโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยค่อนข้างน้อย
สู้เราไปลงทุนตรงผ่านโบรคเกอร์หรือธนาคารไม่ได้ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการบริหาร
แต่ถ้าเป็นกองทุนหุ้นที่เก่ง ก็ยังคุ้มที่จะซื้อนะครับ

6. ตราบเท่าที่คุณเลือกลงทุนในกองทุนรวม คุณก็ควรเลือกกองทุนที่ดีเช่นกัน
กองทุนหุ้นในUSสมัยที่คุณLynchพบเจอมีมากถึง 1,127 กอง
การตัดสินใจเลือกผิด อาจทำให้ผลตอบแทนต่ำกว่าดัชนี
และกลยุทธ์ในการถือ ต้องนานพอให้ผ่านวิกฤตต่างๆไปได้

ตอนที่ผมถือกองทุน OneUGERMF ซึ่งไปลงในกองทุนหุ้นของ Billie Giftford
และมีหุ้นเทคโนโลยีเยอะในport รวมถึงTestlaด้วย ปรากฏว่าช่วงมีนาคม
NAV ลดต่ำลงมากกว่าต้นปี แต่ปรากฏว่าการไม่ได้ทำอะไร กลับได้ผลดี
เพราะว่าตอนนี้กองนี้สร้างผลตอบแทนมากกว่าตอนต้นปี 50%

ขอจบบทความตอนที่1 และ จะมาเล่ากฏข้อต่อไปในบทความหน้านะครับ


Shiny white