ห้องเม่าปีกเหล็ก

คิดเป็น เห็นก่อน

โดย ชัจจ์ปัณฑ์
เผยแพร่ :
62 views

KTC ตัวอย่างผลงานดี ราคาก็พร้อมไป...

ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังเดินเพื่อทำจุดสูงสุดใหม่ต่อไป เช่นเดียวกันกับหุ้นขนาดใหญ่นำโดย พลังงาน ซึ่งมีปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงและทำนิวไฮต่อเนื่อง แต่จากการที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาเร็วและร้อนแรง จนทำให้นักวิเคราะห์มองว่าตลาดมีแนวโน้มปรับพักฐานได้ ดังนั้น สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ คาดว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่จะเห็นดัชนีพยายามย่ำฐานบริเวณนี้ ให้แน่นขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นภาพที่เห็นได้จึงเชื่อว่าดัชนียังมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปได้เรื่อยๆ ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลแต่อย่างใด ประกอบกับเป็นช่วงของการเริ่มประกาศผลประกอบการของปี 60 ที่น่าจะเป็นแรงสนับสนุนบวกให้กับตลาด

ธนาคารพาณิชย์ที่เริ่ม ทยอยรายงานผลประกอบการออกมา ทั้ง TISCO KTC CIMBT ที่ผลประกอบการออกมาดีกว่าที่คาดกัน ก็ต้องมาลุ้นกันในแบงก์ที่เหลือว่าจะออกมาดีกว่าที่คาดกันด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะแบงก์ใหญ่อย่าง KBANK ,BBL,SCB ,KTB แต่ก็ต้องระมัดระวังการ Sell on Fact ได้ในหุ้นกลุ่มนี้ที่ราคามีการปรับตัวขึ้นมารับเรื่องผลประกอบการที่จะประกาศออกมาด้วย หากจะเข้าลงทุนน่าจะรอจังหวะราคาปรับฐานประเด็นดังกล่าวไปก่อนดีกว่าครับ

KTC หลังประกาศงบฯออกมาดีเกินคาด ราคาหุ้นก็วิ่งฝุ่นตลบทำนิวไฮเรียบร้อยไปอีกตัวแล้วครับ โดย บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC รายงานผลดำเนินงานปี 60 มีกำไรสุทธิ 3,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,495 ล้านบาท โดยช่วงไตรมาส 4/60 บริษัทยังคงสามารถขยายฐานบัตรเครดิตเติบโต และรายได้ค่าธรรมเนียมยังเพิ่มขึ้น ทำให้ในไตรมาสนี้ KTC มีกำไรสุทธิ 939 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาส จนทำให้นักวิเคราะห์มีการปรับเป้าหมายราคากันใหม่ที่สูงขึ้นกว่า 220 บาท

แต่อย่างไรก็ตามด้วยราคาหุ้น ณ ขณะนี้พุ่งขึ้นมาแรง และน่าจะเกินราคาเป้าหมายใหม่ที่นักวิเคราะห์เพิ่งปรับขึ้นมาไปแล้ว มีโอกาสที่จะมีการขายทำกำไรลงมาได้เช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ทำให้เห็นได้ว่า เมื่อผลประกอบสามารถทำได้ตามเป้าหมายหรือเหนือกว่าที่วางไว้ ราคาหุ้นก็สามารถพุ่งทะยานขึ้นได้ไม่หยุดเช่นกัน อย่างกรณี ของ KTC ที่เมื่อปีที่แล้วโดนปัจจัยลบ เรื่องการความคุมการปล่อยสินเชื่อบัตรเครดิตของ ธปท. ที่น่าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลการดำเนินงานของ KTC อย่างแน่นอน จนทำให้ราคาไหลลรูดลงไปแถว 100 กว่าบาท แต่มาวันนี้ระยะเวลาเพียงไม่ถึง 1 ปี KTC สามารถปรับตัวแก้ไข จนลดผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวต่อผลการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว จนทำให้ราคาพลิกกลับมาทำนิวไฮไปแล้วนั้น ย่อมแสดงให้เห็นแล้วว่า หากผลงานออกมาดีราคาก็พร้อมไป

แต่การที่นักลงทุนจะสามารถบอกได้ว่าหุ้นตัวไหนมีราคาถูกหรือแพงนั้น ปัจจัยที่สำคัญมากประการหนึ่งคือ นักลงทุนต้องประเมินรู้ให้ได้ว่ามูลค่าที่แท้จริงของหุ้นนั้นเป็นเท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทใดก็ตามถึงแม้ว่าบริษัทจะมีฐานะการเงินแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตามหากผลการดำเนินงานออกมาไม่ดี มีกำไรน้อย หรือขาดทุน โอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นเป็นไปได้ยากและมีโอกาสที่ราคาจะลดลง ต่างจากบริษัทที่ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีกำไรโดดเด่น แนวโน้มที่ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นตามผลประกอบการขึ้นไป และทำให้เราได้รับผลตอบแทนที่ดีหากเลือกลงทุนในหุ้นดังกล่าว ดังนั้นเรื่องของผลการดำเนินงานของบริษัท จึงเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจเลือกเฟ้นหาหุ้นมาลงทุนมากกว่าฐานะทางการเงิน โดยเชื่อว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งนักลงทุนจำเป็นต้องประเมินรู้ให้ได้ในมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น เพื่อตัดสินใจลงทุน

ในตลาดหุ้นไทยยังมีหุ้นที่ดี ที่พร้อมเติบโตไปข้างหน้าได้ด้วยความพร้อมของธุรกิจ การดำเนินโครงการต่าง ๆจาก วิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่เป็นมืออาชีพ ที่จะทำให้บริษัทนั้นเติบโตได้ในอนาคต ก็ยังมีให้เลือกเฟ้นลงทุนกันอยู่มากมายหลายตัว หรือตามคำแนะนำของนักวิเคราะห์สำนักต่างๆ ซึ่งก็เริ่มมีให้เห็นในบทวิเคราะห์แล้วว่า ให้เก็บตัวนั้น ให้ซื้อตัวนี้ ให้ลงทุนระยะสั้น หรือให้ถือลงทุนระยะยาว ที่เห็นก็มีหุ้นอยู่หลายกลุ่ม เช่น หุ้นกลุ่มแบงก์ที่ความสามารถของการดำเนินงานที่สร้างผลกำไรที่ยังเติบโตได้ดี ยิ่งพิจารณาจากผลประกอบการที่จะออกมาแล้ว หากไม่ได้ดูแย่หรือดีกว่าที่คาดกันคงดูดีไม่น้อย ครับ


ชัจจ์ปัณฑ์