ห้องเม่าปีกเหล็ก

ชี้ชัดกันไปเลย BBL เชียร์ซื้อครับ

โดย Rubio
เผยแพร่ :
81 views

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุสาเหตุที่ทำให้ ราคาหุ้น BBL ปรับตัวขึ้นทำนิวไฮรอบ 6 เดือน เนื่องจากกำลังได้รับปัจจัยหนุน จากการประกาศงบการเงินไตรมาส 3/64 ที่มีกำไรสุทธิ 6.9 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 72% จากปีก่อน และ เติบโตขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน ซึ่งดีกว่าตลาด (Consensus) คาดไว้ 14%

-------------------

ด้าน บล.ทรีนี้ตี้ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เหตุผลหลัก ที่ทำให้กำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/64 ของ BBL ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ เนื่องจาก รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ เติบโตขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน ตามสินเชื่อที่ขยายตัว 4% จากไตรมาสก่อน ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตขึ้น 7% จากไตรมาสก่อน แม้จะเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 รุนแรงก็ตาม

-------------------

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 64 ของ BBL ขึ้นจากเดิม 6% เป็น 2.8 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 64% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพื่อสะท้อนกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของ BBL ที่ทำได้ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 76% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 64 เดิม

ระเมินกำไรสุทธิไตรมาส 4/64 ของ BBL มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยมีปัจจัยหนุน จากเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้การเติบโตของพอร์ตสินเชื่อในประเทศเร่งตัวตาม ประกอบกับ เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ของการขายประกัน ที่คาดจะหนุนรายได้ค่าธรรมเนียมของ BBL กลับมาเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ ประเมินว่า การตั้งสำรองหนี้สูญ ของ BBL จะเริ่มผ่อนคลายลงตั้งแต่ไตรมาส 4/64 เป็นต้นไป หลังระดับหนี้เสีย (NPL) กลับมาอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ประกอบกับ มีระดับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) สูงถึง 198.8% ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อีกด้วย

การเข้าลงทุนหุ้น BBL ณ ปัจจุบัน ยังมีความน่าสนใจ เนื่องจากปัจจุบัน เทรด PBV ต่ำเพียง 0.5 เท่า และยังมีอัพไซด์สูงถึง 27% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมของเราที่ 155 บาท/หุ้น ประกอบกับ BBL ยังมีจุดเด่นที่พอร์ตสินเชื่อ มีความเสี่ยงต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์ใหญ่อื่นๆ เพราะมีสัดส่วนลูกหนี้รายย่อย และ SME ไม่สูง

-------------------

บล.เคทีบีเอสที ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 64 ของ BBL ขึ้นจากเดิม 3% เป็น 2.6 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพื่อสะท้อนกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของ BBL ที่ทำได้ 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 80% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 64 เดิม

ทั้งนี้ ได้ปรับคาดการณ์ รายได้ค่าธรรมเนียมปี 64 ของ BBL เป็นเติบโต 15% จากปีก่อน (เดิมคาดเติบโต 6%) เพราะรายได้ค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับสินเชื่อ และหลักทรัพย์เติบโตดีกว่าคาด ประกอบกับ ปรับการเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้นเป็น 20% จากปีก่อน (เดิมคาดเติบโต 13%)

ประเมินว่า กำไรสุทธิไตรมาส 4/64 ของ BBL ยังคงเดินหน้าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุน สำคัญ คือการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียม และ รายได้ดอกเบี้ย มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับ การตั้งสำรองฯ มีแนวโน้มลดลง ตามความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจ

-------------------

บล.เอเซียพลัส ระบุว่า การเข้าลงทุนในหุ้น BBL ช่วงนี้ยังมีความน่าสนใจ เนื่องจากราคาหุ้น BBL ตั้งแต่ประกาศงบการเงินไตรมาส 2/64 (21 ก.ค.64) ถึงปัจจุบัน ยังคง Laggard หุ้นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ อย่าง SCB และ KBANK อีกทั้ง ปัจจุบัน BBL เทรด PBV ที่ระดับ 0.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 12 ปี ราว 1.5SD สะท้อนความเสี่ยงด้านงบการเงินพอสมควร

ขณะที่ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย ปัจจุบัน เฉลี่ยอยู่ที่ 976 คน/วัน ซึ่งลดลงจากระดับที่สูงสุดราว 5 หมื่นคน/วัน ในช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยหนุนหลักต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอินโดนีเซีย และจะหนุนให้คุณภาพสินทรัพย์ ของธนาคาร Permata (10% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดของ BBL) มีเสถียรภาพมากขึ้น


Rubio