WORK อดีตหุ้นขวัญใจ จาก 104 บาท สู่ 6.10 บาท
พลิกขาดทุนรอบ 10 ปี เกิดอะไรขึ้น
.

หนึ่งในอดีตหุ้นยอดนิยม หลายคนคงนึกถึงหุ้นอย่าง WORK หรือ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตคอนเทนต์และเจ้าของช่องทีวีดิจิทัลชั้นนำของเมืองไทย ที่เป็นหุ้นขวัญใจนักลงทุน
.
ทั้งนี้หากย้อนอดีตไปในหุ้นของ WORK จะพบว่า ราคาหุ้นในช่วงปี 2560 ที่ปรับตัวขึ้นไปอย่างรุนแรงนั้น เป็นช่วงที่ WORK ประสบความสำเร็จอย่างมาก จากการออกอากาศของรายการ The Mask Singer ที่สร้างปรากฏการณ์หน้ากากทุเรียน ของ “ทอม อิศรา” และหน้ากากจิงโจ้ ของ “เป๊ก ผลิตโชค” สร้างแรงคาดหวังว่ากำไรของ WORK จะต้องโตดีอย่างต่อเนื่อง จากโฆษณาที่จะไหลเข้ามายังช่อง และการผลิตคอนเทนต์ส่งออกไปยังต่างประเทศ
.
ส่งผลให้ราคาหุ้นของ WORK ในช่วงปี 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติ 105 บาท แต่แล้วผลประกอบการไม่ได้เติบโตอย่างที่นักลงทุนคาดหวัง
.
ผลประกอบการย้อนหลังของ WORK
• ปี 2560 กำไร 904 ล้านบาท
• ปี 2561 กำไร 345 ล้านบาท
• ปี 2562 กำไร 159 ล้านบาท
• ปี 2563 กำไร 159 ล้านบาท
• ปี 2564 กำไร 324 ล้านบาท
• ปี 2565 กำไร 171 ล้านบาท
• ปี 2566 กำไร 13 ล้านบาท
.และล่าสุด ปี 2567 ขาดทุน 201 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 1,591%
.ก่อนที่ในปัจจุบันราคาหุ้นของ WORK จะร่วงเหลือ 6.10 บาท หรือนับว่าร่วงจากจุดสูงสุดในอดีตถึง -94%
.ทั้งนี้ ในผลประกอบการของ WORK ปี 2567 นับเป็นการขาดทุนในรอบกว่า 10 ปี โดยบริษัทแจ้งว่า ผลการดำเนินงานที่ขาดทุนเกิดจากรายได้โฆษณาที่ลดลงและต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น
.โดยปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทแจ้งว่ามีรายได้ 2,339 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 3% โดยรายได้ธุรกิจทีวีอยู่ที่ 1,643 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 13% จากรายได้โฆษณาผ่านช่องทางโทรทัศน์และออนไลน์ที่ลดลง
.รายได้จากการรับจ้างผลิตให้กับบุคคลภายนอกและการจัดงานเองอยู่ที่ 282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78% จากปีก่อน จากทิศทางของธุรกิจอีเวนต์ที่เพิ่มขึ้น
.รายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและละครเวทีอยู่ที่ 323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน จากการจัดคอนเสิร์ต เช่น Mark Tuan, นิทานหิ่งห้อย เดอะมิวสิคัล และคอนเสิร์ตคุณพระช่วยสำแดงสด
.อย่างไรก็ตาม บริษัทมีต้นทุนการผลิต 1,952 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากต้นทุนการจัดงานที่เพิ่มขึ้นกดดันให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 387 ล้านบาท ลดลง 39% จากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นบริษัทรับรู้ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารงาน 703 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% โดยมีค่าใช้จ่ายการขาย 132 ล้านบาทและมีค่าใช้จ่ายการบริหาร 571 ล้านบาท จากการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ไม่มีตัวตน โดยเฉพาะสินทรัพย์ประเภทละคร
ที่มา https://web.facebook.com/share/p/1BZwtuGmVG/