ห้องเม่าปีกเหล็ก

Beta คืออะไร???

โดย Vi-investor
เผยแพร่ :
76 views

Beta คืออะไร???

ปัจจุบันมีกองทุนประเภทต่างๆ ได้เชื้อเชิญนักลงทุนให้มาลงทุนผ่านกองทุนรวม โดยได้เสนอว่ามีการบริหารจัดการกองทุนแบบ Smart Beta แต่รู้หรือไม่ครับว่า ค่า Beta ที่กองทุนได้พูดนั้นคืออะไร???

ค่าบีต้าหรือ Beta คือ ค่าดัชนีที่ใช้วัดการเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์เทียบกับการเคลื่อนไหวราคาของตลาด แล้วการเคลื่อนไหวของราคาบ่งบอกถึงอะไร??? >> การเคลื่อนไหวของราคานี้บ่งบอกถึงความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์นั้นๆ โดยกำหนดว่า

หากค่า Beta = 1: หมายถึง สินทรัพย์นั้นมีการเคลื่อนไหวหรือมีความเสี่ยงในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งเท่ากับของตลาด

หากค่า Beta > 1: หมายถึง สินทรัพย์นั้นมีการเคลื่อนไหวหรือมีความเสี่ยงในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง มากกว่าของตลาด

หากค่า Beta < 1: หมายถึง สินทรัพย์นั้นมีการเคลื่อนไหวหรือมีความเสี่ยงในช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง น้อยกว่าของตลาด

ตัวอย่างเช่น หากหุ้น ABC มีค่า Beta เท่ากับ 1.5 ในขณะที่หุ้น XYZ มีค่า Beta เท่ากับ 0.5 ดังนั้น นักลงทุนสามารตีความหมายได้ว่าหุ้น ABC มีความเสี่ยงมากกว่า อันเนื่องมาจากความเคลื่อนไหวของราคามากกว่าตลาด ในขณะที่หุ้น XYZ มีความเสี่ยงน้อยกกว่า เนื่องมาจากความเคลื่อนไหวของราคาน้อยกว่าตลาด

อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่า ความเสี่ยงมักมาพร้อมกับผลตอบแทนที่ได้รับ หากคาดหวังผลตอบแทนที่มากกว่าตลาด ก็อาจจะต้องยอมรับความเสี่ยงมากกว่าโดยลงทุนหุ้นที่มีค่า Beta มากกว่า 1 ในทางตรงกันข้าม หากคาดหวังผลตอบแทนเท่ากับตลาด นักลงทุนอาจจะเลือกลงทุนหุ้นที่มีค่า Beta ประมาณเท่ากับ 1 ได้

นอกจากนี้ ยังมีทฤษฎีที่ใช้ในการคำนวณผลตอบแทนที่คาดหวัง ซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับค่า Beta นั้นคือ ทฤษฎี Capital Asset Pricing Model หรือ CAPM โดยมีสมการที่เกี่ยวข้องดังนี้

โดยที่   Re คือ ผลตอบแทนที่นักลงทุนคาดหวังจากการลงทุน

          Rf คือ Risk-free rate return เช่น ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล

          Rm คือ ผลตอบแทนเฉลี่ยของตลาด

จากสมการ จะเห็นได้ว่า หากค่า Beta มีค่ามากขึ้น จะทำให้ Re มีความค่าสูงขึ้นตาม ในขณะที่ หากค่า Beta มีค่าน้อยลง จะทำให้ Re หรือผลตอบแทนที่คาดหวัง มีความค่าน้อยลงตาม

ยกตัวอย่างเช่น ผลตอบแทนตลาดเท่ากับ 10% และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเท่ากับ 2.5% หากนักลงทุนตัดสินใจลงทุนหุ้นที่มี Beta เท่ากับ 1.2 ดังนั้น ผลตอบแทนที่นักลงทุนควรคาดหวังจากการลงทุนในครั้งนี้จึงเท่ากับ

Re = 2.5% + 1.2 (10%-2.5%) = 11.5%

จะเห็นได้ว่า หากลงทุนในหุ้นที่มี Beta มากกว่า 1 จะทำให้ผลตอบแทนที่คาดหวังสูงกว่าผลตอบแทนของตลาด (ในกรณีนี้คือ 10%) ในทางตรงกันข้าม หากลงทุนในหุ้นที่มี Beta น้อยกว่า 1 จะทำให้ผลตอบแทนที่คาดหวังน้อยกว่าผลตอบแทนของตลาด

>>> แต่อย่าลืม!!! ค่า Beta ที่สูง จะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงกว่า

มาถึงตอนนี้ ผู้อ่านคงอยากจะรู้แล้วว่าค่า Beta ของหุ้นสามารถหาได้จากที่ไหน ผู้เขียนแนะนำให้ติดต่อกับหลักทรัพย์ที่ใช้ในการซื้อขายหุ้นอยู่ หรือหากจะดูโดยทั่วไป อาจจะสามารถดูได้ที่ https://finance.yahoo.com/ ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลพื้นฐานของหุ้นทั่วโลกไว้

สุดท้ายนี้ ขอย้อนกลับไปที่กองทุนว่า กองทุนที่บริหารแบบ Smart Beta มีหลักการบริหารคร่าวๆ อย่างไร?? กองทุนเหล่านี้ อาจจะไม่ได้เลือกลงทุนหุ้นที่มี Beta มากกว่า หรือน้อยกว่า 1 เสมอไป พวกเขาจะดูภาพรวม สถาณการณ์ ต่างๆ เพื่อประเมินและตัดสินใจว่าช่วงใดสามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น โดยเลือกลงทุนหุ้นที่มี Beta สูงกว่าตลาด ในทางตรงกันข้าม หากดูแล้วตลาดมีความเสี่ยงมาก อาจจะเลือกหุ้นกลุ่ม Defensive Stock ที่มีความเสี่ยงหรือ Beta น้อยกว่าตลาด อย่างไรก็ตาม เป็นหน้าที่ของนักลงทุนที่ต้องศึกษา วิเคราะห์ และเข้าใจวัตถุประสงค์ของกองทุนอย่างชัดเจน ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน


Vi-investor