A.I. ชนวนหุ้นวายวอด

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำลังตื่นตัวกับผลกระทบจากพฤติกรรมการซื้อขายหุ้นที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการซื้อขายด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางการกำกับดูแล เพื่อป้องกันความผันผวนที่จะเกิดขึ้นกับตลาดหุ้น

โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่พัฒนามาใช้สั่งซื้อขายหุ้นที่ถูกพูดถึงกันมากคือ A.I. หรือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ ตัดสินใจแทนนักลงทุน โดยขจัดจุดอ่อนหรือข้อผิดพลาดของมนุษย์ ทั้งอารมณ์ วินัยการลงทุนหรือแม้แต่ความโลภ และสามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนได้ตามสถานการณ์ตลาดหุ้น

สิ่งที่ได้เปรียบนักลงทุนที่สั่งซื้อขายหุ้นด้วยตัวเองคือ ความรวดเร็วในการส่งผ่านคำสั่งซื้อขาย เพราะเท่าที่มีการเก็บข้อมูล ภายในเวลาเพียง 3 วินาที ระบบ A.I. สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ถึง 17 รายการ ซึ่งเกินความสามารถมนุษย์ที่จะทำได้

การส่งคำสั่งซื้อขาย นักลงทุนจึงไม่มีโอกาสได้เปรียบ A.I. เพราะระหว่างที่นักลงทุนลังเลการตัดสินใจว่า จะซื้อหรือขายดี ระบบ A.I. ส่งคำสั่งไปรอดักล่วงหน้าแล้ว

เคยมีการทดสอบนำระบบ A.I. มาแข่งขันกับมนุษย์ โดยป้อนโปรแกรมหมากล้อมเข้าไปในคอมพิวเตอร์ และนำโปรแกรมไปแข่งขันกับนักเล่นหมากล้อมมือระดับโลก ปรากฏว่า พ่ายแพ้ยับเยินต่อ A.I. การซื้อขายหุ้นคงไม่แตกต่างกัน นักลงทุนสู้ไม่ได้แน่

ตลาดหุ้นที่เกิดความผันผวน หรือหุ้นบางตัวที่ขึ้นลงผิดปกติ ส่วนหนึ่งเกิดจากระบบ A.I. จนบริษัทโบรกเกอร์และนักลงทุนเริ่มเห็นสัญญาณอันตรายจากการซื้อขายด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยตลาดหุ้นอาจเกิดวิกฤตครั้งใหญ่ได้

ปัจจุบันโบรกเกอร์หลายแห่ง เปิดให้บริการซื้อขายด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับอย่างดี นักลงทุนเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หันไปใช้เทคโนโลยีสั่งซื้อขายแทนมากขึ้น

แต่ปัญหาที่ตามมาคือ A.I. ทำให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวน หุ้นบางตัวขึ้นลงรุนแรงอย่างผิดปกติ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว

และถ้าไม่ควบคุมการซื้อขายหุ้นด้วย A.I. ตลาดหุ้นอาจเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในอนาคต

มีความเคลื่อนไหวจากคนในแวดวงตลาดหุ้น เรียกร้องให้ตลาดหลักทรัพย์ เร่งกำหนดมาตรการควบคุมการซื้อขายด้วยเทคโนโลยีมาระยะหนึ่งแล้ว และเสียงเรียกร้องกำลังได้รับการตอบสนองจากตลาดหลักทรัพย์

ยังไม่มีรายละเอียดว่า ตลาดหลักทรัพย์จะวางแนวทางการกำกับดูแลการซื้อขายหุ้น ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์และพฤติกรรมนักลงทุนอย่างไร จะป้องกันไม่ให้โปรแกรม A.I. นำความล่มจมมาสู่ตลาดหุ้นด้วยวิธีการใด

การประกาศแนวทางการกำกับดูแลการซื้อขาย เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์มองเห็นถึงผลกระทบจากการซื้อขายด้วยโปรแกรม A.I. เหมือนกัน จึงเตรียมการรับมือกับภัยคุกคามการลงทุนในรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์

นักเก็งกำไรระยะสั้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ซื้อขายรายวัน อาจต้องเดือดร้อนกันหน่อย เพราะมีคู่แข่งสำคัญที่จะเข้ามาช่วงชิงโอกาสและจังหวะในการเก็บเกี่ยวกำไรจากการซื้อขายหุ้น ซึ่งทุกฝ่ายประเมินมาแล้วว่า

นักเก็งกำไรระยะสั้น ที่ยังติดยึดกับพฤติกรรมเดิม ซื้อขายด้วยระบบโบราณ ตัดสินใจสั่งซื้อขายด้วยตัวเอง “เป็นรอง” การซื้อขายด้วยระบบ A.I.

และนับวัน นักเก็งกำไรที่ไม่ปรับตัวตามการพัฒนาด้านเทคโลโลยี จะล้มหายตายจากไปเรื่อย ๆ

แต่นักลงทุนที่ยึดหลักปัจจัยพื้นฐาน ถือหุ้นเพื่อการลงทุนระยะยาว ไม่ต้องเดือดร้อนอะไรนัก เพราะโปรแกรม A.I. ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อสู้รบหรือเอาชนะนักลงทุนระยะยาว แต่พุ่งเป้าโจมตีนักเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น

การบ้านใหญ่ของนักเก็งกำไรระยะสั้น ไม่ได้อยู่ที่วันนี้ หรือพรุ่งนี้จะเล่นหุ้นตัวไหนแล้ว แต่อยู่ที่จะปรับตัว รับมือกับโปรแกรมการซื้อขายหุ้น ด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคอย่างไรเท่านั้น

หมายเหตุ : 1) ที่มาจาก คอลัมน์ " ชุมชนคนหุ้น " โดย สุนันท์ ศรีจันทรา ใน MGR Online เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ปี พ.ศ 2561 

                 2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com