ปริมาณการค้า "โลหะ" ทั่วโลกร่วง

ปริมาณการค้า "โลหะ" ทั่วโลกร่วง วิตกภาวะถดถอย-ตลาดผันผวน

สำนักข่าว The Business Times รายงานเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2565 ว่า ปริมาณการค้าโลหะในเชิงอุตสาหกรรมลดลงทั่วโลก และมีแนวโน้มลดลงอีก เนื่องจากภัยคุกคามทางเศรษฐกิจจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น สู่สงครามในยูเครน ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีน
 

โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงทำให้เกิดความกังวลอย่างแท้จริงเกี่ยวกับภาวะถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้น ในขณะที่ความเชื่อมั่นยังคงสั่นคลอนหลังจากราคาแกว่งตัวในช่วงไตรมาสแรกหลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย

ปริมาณการซื้อขายทองแดงร่วงลงถึง 1 ใน 3 จากการแลกเปลี่ยนสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกจนถึงปีนี้ และในโลหะอุตสาหกรรมอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็ตกต่ำเช่นกัน โดยมีนิกเกิลที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด

ดีมานด์ที่ลดลงของโลหะอุตสาหกรรมเป็นสัญญาณไม่ดีสำหรับเศรษฐกิจโลก ซึ่งทองแดงที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในกระบวนการทางอุตสาหกรรมตั้งแต่การก่อสร้างไปจนถึงการผลิตไฟฟ้าและการผลิต ถือเป็นตัวบ่งชี้สำคัญ

แม้ว่าความสัมพันธ์จะซับซ้อนจากปัจจัยอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนและส่วนต่าง การเปรียบเทียบปริมาณทองแดงกับการเติบโตทั่วโลกและการผลิตแสดงความสัมพันธ์กัน ซึ่งนักวิเคราะห์ประมาณการไว้ที่ 60-80%

โรบิน บาห์ ที่ปรึกษาอิสระ กล่าวว่า “เห็นได้ชัดว่าภัยคุกคามจากภาวะถดถอยอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ดีมานด์โลหะลดลง”

การแลกเปลี่ยนในจีน ผู้ผลิตและผู้บริโภคสินค้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ได้เห็นการกัดเซาะครั้งใหญ่ที่สุดในกิจกรรม โดยปริมาณทองแดงใน Shanghai Futures Exchange (ShFE) ลดลง 33% จนถึงเดือนสิงหาคมปีนี้ นอกจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและวิกฤตด้านทรัพย์สินแล้ว รัฐบาลจีนยังได้ดำเนินมาตรการที่เข้มงวดเกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-19 โดยกำหนดให้ต้องล็อกดาวน์อย่างรุนแรงในศูนย์กลางการค้าของจีนอย่างเซี่ยงไฮ้ ประกอบกับผู้คนไม่เต็มใจที่จะทำการตัดสินใจซื้อขายครั้งใหญ่ในช่วงล็อกดาวน์

โดยการซื้อขายทองแดงบางส่วนในจีนได้เปลี่ยนไปใช้สัญญาทองแดงระหว่างประเทศฉบับใหม่เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนพลังงานระหว่างประเทศ (INE) ของเซี่ยงไฮ้ แต่นั่นเป็นเพียงส่วนน้อยของการลดลงใน ShFE ปริมาณ INE เพิ่มขึ้น 819,288 ตันจนถึงปีนี้ แต่กิจกรรม ShFE ลดลง 74.4 ล้านตัน

นอกจากนี้ตลาด Comex ของสหรัฐเป็นที่ชื่นชอบของกองทุนและนักเก็งกำไร แต่ความระแวดระวังของพวกเขาทำให้ปริมาณทองแดงเฉลี่ยต่อวันลดลง 21% ในช่วง 8 เดือนแรกของปี

อย่างไรก็ตามสถานะของ LME ยังคงอยู่แม้ว่าราคานิกเกิลจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในเดือนมีนาคม ซึ่งทำให้การแลกเปลี่ยนต้องระงับกิจกรรมและยกเลิกการค้ามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ สร้างความไม่พอใจให้กับนักลงทุนจำนวนมาก และก่อให้เกิดการฟ้องร้องดำเนินคดี ด้วยความเชื่อมั่นที่ถูกบ่อนทำลาย กิจกรรมของนิกเกิลได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยปริมาณ LME ลดลง 17% จนถึงปีนี้ แม้ว่าจะยังน้อยกว่าใน ShFE ซึ่งลดลง 70%

ข้อมูล LME แสดงให้เห็นว่าผู้เข้าร่วมจำนวนมากละทิ้งตลาดนิกเกิล ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ผู้ค้าหลายรายกล่าวว่ามีแนวโน้มว่าจะดำเนินต่อไป นำไปสู่ปริมาณที่ลดลงและความผันผวนที่มากขึ้น เนื่องจากผู้คนจำนวนมากขึ้นเลือกที่จะเจรจาราคาโดยตรง

อ้างอิง : https://www.businesstimes.com.sg/energy-commodities/global-metals-volumes-slide-on-recession-fears-volatile-markets