ท่องเที่ยวอาการหนัก! แม้มีฟรีวีซ่า
จีนเลือกไปญี่ปุ่นมากที่สุดในเอเชีย
โบรกฯ ชี้ระยะยาวยังชอบ ERW-MINT

.
นักท่องเที่ยวจีนเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีบทบาทและความสำคัญต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย แต่ในล่าสุดเหตุการณ์ในประเทศได้สร้างความกังวลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน จึงทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวหายไป ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีผลต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน แต่จะเป็นเช่นไรเราจะพาไปดูมุมมองของนักวิเคราะห์กัน
.
โดยบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้มุมมองว่ายังคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มท่องเที่ยวเป็น “เท่ากับตลาด” โดยในการจัดสัมมนาเรื่อง “แนวโน้มการเติบโตของนักท่องเที่ยวหลังจีนเปิดประเทศ” วานนี้ มีมุมมองเป็นลบ เพราะแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาส 4/66 ที่จะทำได้แค่ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า จากเดิมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า
.
ด้วยเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัย ขณะที่ momentum การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนจะมาอีกทีช่วงตรุษจีนในไตรมาส 1/67 ด้านช่วง Golden week ที่ผ่านมา (1-7 ต.ค. 23) ถึงแม้ว่าจะมีฟรีวีซ่าที่ออกให้ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. แต่นักท่องเที่ยวจีนมาได้ไม่เยอะเพราะเวลากระชั้นชิดมากเกินไป ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนเลือกที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นมากที่สุดในเอเชีย
.
ทั้งนี้ ยังคงประมาณการนักท่องเที่ยวจีนในปี 2566 อยู่ที่ 4 ล้านคน โดยตั้งแต่ 1 ม.ค.-8 ต.ค. 66 อยู่ที่ 2.6 ล้านคน คิดเป็น 65% ของประมาณการทั้งปี แม้ว่าวานนี้กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยช่วงวันที่ 2-8 ต.ค. 66 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง 29% จากสัปดาห์ก่อนหน้า และจำนวนนักท่องเที่ยวรวมลดลง 10% จากสัปดาห์ก่อนหน้า
.
จากสถานการณ์ที่สยามพารากอนเป็นตัวกดดัน ซึ่งมองว่าประเด็นนี้จะเป็นกดดันในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้า โดยน่าจะเห็นการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนได้อีกทีหลังจากที่ภาครัฐเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่น ซึ่งคาดนักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีอีกครั้งในช่วงเทศกาลตรุษจีน
อย่างไรก็ดี คาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวรวมในไตรมาส 4/66 จะยังคงเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าได้จากนักท่องเที่ยวจากกลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรป อย่าง รัสเซีย สหราชอาณาจักร ที่จะกลับมาฟื้นตัวได้ดี
.
ทั้งนี้ ราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่ลดลง 8% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เพราะเหตุการณ์กราดยิงที่พารากอน โดยระยะสั้นราคาหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวจะยังโดนกดดันจากสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยอยู่ แต่ระยะยาวยังคงชอบ ERW (ซื้อ/เป้า 6.50 บาท) และ MINT (ซื้อ/เป้า 40.00 บาท)
.
ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 2-8 ต.ค. ที่ 5.0 แสนคน ลดลง 10% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนลดลง 29% จากสัปดาห์ก่อนหน้า
.
โดย ททท.ให้เหตุผลว่านักท่องเที่ยวจีนบางส่วนออกเดินทางตั้งแต่สัปดาห์ก่อนหน้าในช่วง Golden Week เพื่อหลีกเลี่ยงความแออัด และความกังวลต่อความปลอดภัยจากเหตุการณ์ที่สยามพารากอน
.
ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงที่เหลือของปี 2566 ที่ระดับ 8-10 ล้านคน (เทียบกับปี 2562 หรือ ปีปกติทำได้ถึง 12 ล้านคน) เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายทั้งปีของตลาดที่ 28 ล้านคน ประเมินว่ายังมีโอกาสทำได้ หลังภาครัฐเร่งดำเนินมาตรการ “ฟื้นฟูภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัย” ในระยะสั้นไปยังตลาดจีนและอื่นๆ
.
ส่วนมาตรการระยะกลางถึงยาวจากภาครัฐ ททท.อยู่ระหว่างประเมินผลตอบรับจากเฟสแรกที่ให้วีซ่า-ฟรีแก่ชาวจีนและคาซัคสถาน มีโอกาสที่จะพิจารณาออกมาตรการวีซ่า-ฟรีแก่อินเดียและประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมในระยะถัดไป
.
ทั้งนี้ ยังคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มท่องเที่ยว “เท่ากับตลาด” ระยะสั้นหุ้นในกลุ่มยังมีโอกาสซึมตัวจากการถูกลดน้ำหนักกดดันจากนักท่องเที่ยวที่ลดลง กลยุทธ์การลงทุนยังเน้นหุ้นที่มูลค่าถูกกว่ากลุ่ม เลือก MINT ราคาเป้าหมายที่ 44 บาท เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม ขณะที่ประเด็นความกังวลสงครามอิสราเอล คาดได้รับผลกระทบต่อ MINT จำกัด