คิดเป็นเห็นก่อน - ตลาดพุ่ง
ทำนิวไฮ ทะลุ 1600 จุด
มาในหุ้นบิ๊กแคป...จะขึ้นต่อ
หรือปรับฐาน?
อ่านเพิ่มเติม คลิ๊ก https://www.thunhoon.com/stockfocus-10/
ตลาดพุ่งทำนิวไฮ ทะลุ 1600 จุด มาในหุ้นบิ๊กแคป...จะขึ้นต่อหรือปรับฐาน?
การปรับตัวพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นไทยอย่างคาดไม่ถึง รวดเร็วจนแทบตั้งตัวไม่ทัน ดัชนีทะลุทะลวงผ่าน 1600 จุดด้วยวอลุ่มทะลักล้น 9.48 หมื่นล้าน ซึ่งน้อยครั้งที่จะมีวอลุ่มขนาดนี้ เกิดอะไรขึ้น ตลาดพลิกกลับตัวเป็นขาขึ้นแล้วหรือ จะขึ้นจริงหรือขึ้นหลอก เป็นคำถามที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างโดยเฉพาะนักลงทุนทั่วไป หลังจากที่ตลาดหุ้นบ้านเราขึ้นๆลงๆไม่ไปไหนมา 7-8 เดือน อยู่ๆก็ปรับตัวขึ้นแรงเหนือความคาดหมายอย่างผิดปกติแบบนี้
การปรับตัวขึ้นของตลาดแบบนี้จะเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ หรือเป็นพียงแค่มันนี่เกมของมือใหญ่ ทั้งกองทุนและต่างชาติที่ดันหุ้นตัวใหญ่ขึ้นมาแบบยกแผงชนิดที่ว่าซื้อกันแบบไม่กลัวขาดทุนจนวอลุ่มมากมายอย่างที่เห็น แน่นอนย่อมทำให้บรรยากาศการลงทุนบ้านเรากลับมาคึกคักแม้จะไม่รู้ว่าจะยืนระยะได้นานแค่ไหน เพราะที่จริงก็ยังขาดปัจจัยสนับหนุนที่เพียงพอ แต่แนวโน้มหรือโมเมนตั้มของตลาดส่งสัญญาณที่ดี แม้จะมีความเสี่ยงที่ดัชนีจะมีการแกว่งตัวได้ก็ตาม
การเลือกหุ้นลงทุนคงต้องอิงตามตลาดที่มีการขับเคลื่อนด้วยมวลของหุ้นขนาดใหญ่ ที่หนุนด้วยกำลังซื้อมหาศาลของเม็ดเงินข้ามชาติและกองทุนในประเทศ พูดง่ายๆก็คือหากจะลงทุนก็ต้องพิจารณาหุ้นตัวใหญ่เป็นหลัก แต่ก็ต้องเป็นหุ้นยังมีการเติบโตที่ดี มีเงินปันผลคุ้มค่า ที่สำคัญราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานอย่างแท้จริง เพราะจะมีช่วงให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นได้สูงกว่า
ณ ปัจจุบัน ค่าพีอีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 16 เท่าใกล้เคียงกับตลาดเพื่อนบ้านอย่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย ส่วนฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อยู่ที่ระดับ 19-20 เท่า ก็ถือได้ว่าตลาดหุ้นไม่ได้แพงไปกว่าเพื่อนบ้านเลย นอกจากนี้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวได้ดีกว่าที่คาด
หุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นแรงอย่าง PTT ที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุด 1.1 ล้านล้านบาท ที่นักวิเคราะห์มองว่าผลประกอบการปีนี้จะเติบโตโดดเด่น จากราคาน้ำมันที่ไม่ผันผวนมากผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ราคาหุ้นที่ตกต่ำมาพักใหญ่จึงมีการเร่งตัวเร็วและแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
AOT มูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ที่ราว 7.46 แสนล้านบาท เป็นหุ้นใหญ่ ที่เติบโตได้อย่างมั่นคง เนื่องจากผูกขาดบริการสนามบินของประเทศ ผลประกอบการเติบโตสร้างสถิติใหม่มาโดยตลอด หนุนโดยการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นจนสนามบินแทบจะรองรับไม่ไหว จึงไม่แปลกที่จะเป็นหุ้นเป้าหมายเก็บเข้าพอร์ตของมือใหญ่
SCC หุ้นบิ๊กไซด์ มูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ที่ราว 5.83 ล้านบาท ที่ผลการดำเนินงานยังมีกำไรเติบโตระดับไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านต่อไตรมาสที่มีน้อยหุ้นในบ้านจะทำได้ การกระตุ้นการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐยังเป็นปัจจัยเร่งการเติบโตของธุรกิจอย่างมีนัย
ADVANC หุ้นสื่อสารขนาดใหญ่ที่สุดและมีมูลค่าตลาดอันดับที่ 4 ที่ราว 5.5 แสนล้านบาท แม้ที่ผ่านมาจะมีความกังวลเรื่องต้นทุนใบอนุญาตที่ประมูลมาในราคาสูงกดดันผลกำไรให้ลดลง แต่ปัจจัยดังกล่าวจะคลายความกดดันตามการชำระค่าใบอนุญาตในแต่ละงวดที่ผ่านไป ขณะที่ปัจจุบันการแข่งขันในธุรกิจระหว่างผู้ให้บริการรายใหญ่ของประเทศลดดีกรีความร้อนแรงลงจะเป็นอีกตัวผลักดันให้ผลกำไรกลับมาฟื้นตัวได้ในระยะยาว
สุดท้ายแบงก์ใหญ่อันดับ 1 SCB ที่มีมูลค่าตลาดที่ราว 4.9 แสนล้านบาท เป็นแบงก์ที่ปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริงยังไม่ได้สะท้อนออกมาในราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน
การปรับตัวขึ้นของตลาดในรอบนี้มาในกลุ่มหุ้นที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ทั้งสิ้น ปล่อยให้หุ้นเล็กหุ้นกระแสเงียบเหงาไปเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามตลาดอาจมีการแกว่งตัวปรับฐานได้ในระยะสั้นหลังจากปรับตัวขึ้นเร็วและแรงต่อเนื่องหลายวัน