ห้องเม่าปีกเหล็ก

ตลาดหุุุุุุุุุ้้้้้้้้นไทย พุ่งเกินคาด

โดย ศักดิ์
เผยแพร่ :
98 views

จากการที่ผู้โพสต์ได้ให้ความเห็นเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า " ตลาดหุ้นพุ่ง หลังเดือนตุลาคมนี้ " นั้น โดยผู้โพสต์ได้ให้เหตุผลไว้ว่าปลายปีนี้คือปี พ.ศ 2561 ต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งแรกของปีหน้าคือปี พ.ศ 2562 น่าจะมีเหตุการณ์ที่เรียกว่า " ตุลาฯอาถรรพ์ ", " January Effect " และ " Election Rally

เหตุการณ์ที่เรียกว่า " ตุลาฯอาถรรพ์ " นั้นหมายถึงว่า ตลาดหุ้นมักจะปรับตัวลดลงครั้งใหญ่ของปีในเดือนตุลาคม เช่นเหตุการณ์วันจันทร์ทมิฬฯ ( Black Monday ) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทําให้ Down Jones ปรับตัวลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ -23% ภายในวันเดียว ก็เกิดเมื่อวันที่ 19 ในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ 1987   หรือ เหตุการณ์วันอังคารทมิฬฯ ( Black Tuesday ) ในเหตุการณ์การตกตํ่าครั้งใหญ่  ( The Great Depresion ) ก็เกิดเมื่อวันที่ 29ในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ 1929 หรือแม้กระทั่งวิกฤตในด้านอื่นๆก็มักจะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมของปีเช่นเดียวกัน เช่นเหตุการณ์ 14 ตุลาคม ปี พ.ศ 2516 หรือ 6 ตุลาคมปี พ.ศ 2519  ที่มีวิกฤติจลาจลทางการเมืองครั้งใหญ่ของเมืองไทยก็เกิดในเดือนตุลาคม เป็นต้น

ส่วนคําว่า " January Effect " นั้น หมายถึงเหตุการณ์ที่ตลาดหุ้นมักจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากวันเริ่มต้นปีใหม่ของทุกปี เนื่องจากนักลงทุนมีอารมณ์เชิงบวกเกี่ยวกับการเริ่มทํางานในปีใหม่ มีความหวังใหม่และกําลังใจใหม่ๆรออยู่ในปีใหม่ที่กําลังจะมาถึง และที่สําคัญที่สุดพนักงานมักจะมีเงินเหลือเก็บอยู่ก้อนหนึ่งเนื่องจากเพิ่งได้รับเงินโบนัสประจําปีมาแล้วจึงมักจะนําเงินก้อนนั้นๆมาลงทุนในตลาดหุ้นหลังปีใหม่ ทําให้ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น

และ สุดท้าย คําว่า " Election Rally "  หมายถึงตลาดหุ้นมักจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 - 3 เดือนก่อนการเลือกตั้งทั่วไป จนกระทั่งหลังเลือกตั้งทั่วไป การปรับตัวของตลาดหุ้นจึงจะสิ้นสุด

สําหรับเหตุการณ์ " ตุลาฯอาถรรพ์ " สําหรับปีนี้คือปี พ.ศ 2561 นั้นน่าจะเกิดขึ้นแล้ว เพราะ Set Index ปรับตัวลดลงจากจาก 1,760 จุด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ปี พ.ศ 2561 ไปทําจุดตํ่าสุดในรอบนี้ที่ 1,596 จุด ระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในวันที่ 25 ตุลาคม ปี พ.ศ 2561 หรือปรับตัวลดลง ( 1,596 - 1,760 ) / 1,760 x 100 = -9.32% ภายในเวลา 3 สัปดาห์

สําหรับการปรับตัวลดลงครั้งใหญ่ครั้งแรกของปีนั้นเกิดขึ้นจากการลดลง  ( 1,584 - 1,852 ) / 1,852 x 100 = -14.47% ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 29 มิถุนายน ปี พ.ศ 2561

เพราะฉะนั้น Set Index ปิดที่ 1,753 จุดเมื่อปีที่แล้วคือปี พ.ศ 2560 และปรับตัวดังนี้คือ :

1) ขึ้นไปทําจุดสูงสุดตลาดกาล 1 ครั้งคือ 1,852 จุดมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2561 และ ทําจุดสูงสุดครั้งที่ 2 ที่ 1,760 จุด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ปี พ.ศ 2561

2) ลงไปทําจุดตํ่าสุดตํ่าสุด 2 ครั้ง คือ 1,584 จุด เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ปี พ.ศ 2561 และ 1,596 จุด เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ปี พ.ศ 2561

3) และ เป็นที่น่าสังเกตุว่า ในช่วงที่ Set Index ปรับตัวลงไปทําจุดตํ่าสุดในรอบปีทั้ง 2 ครั้งนั้น หุ้น ITD ก็ปรับตัวลงไปทําจุดตํ่าสุดในขาลงรอบใหญ่ที่ 2.60 บาท ทั้งสองครั้ง จากการทําจุดสูงสุดในขาขึ้นรอบใหญ่รอบที่แล้วที่ 9.60 บาท เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2558 หรือ ลดลง ( 2.60 - 9.60 ) / 9.60 x 100 = -72.92% ในช่วงประมาณ 3 ปีครึ่งที่ผ่านมา สําหรับการปรับตัวลดลงของ ITD ครั้งที่ 1 เนื่องจากข่าวเรื่อง " เสือดํา ", Set  Index ปรับตัวลงมาทําจุดตํ่าสุดในรอบปีนี้คือปี พ.ศ 2561ที่ 1,584 จุด เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ปี พ.ศ 2561 และ พ.ร.บ วินัยการเงินการคลังฯ ที่มีข้อกําหนดเกี่ยวกับหนี้สาธารณะ ซึ่งอาจจะมีผลทําให้โครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาทเป็นจำนวนมากมีการล่าช้ากว่าแผนงาน ส่วนการปรับตัวลดลงของ ITD ครั้งที่ 2 น่าจะมาจาก Set Index ปรับตัวลงมาทําจุดตํ่าสุดครั้งที่ 2 ในรอบปีที่ 1,596 จุด เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ปี พ.ศ 2561 และ เนื้อหาของเพลงแร็ปเพลงหนึ่งที่กําลังโด่งดังและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลายใน Social Media ของสังคมไทยในปัจจุบันที่มีการพาดพิงไปถึงคดี " เสือดํา

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกในอนาคตของ ITD มีดังนี้คือ :

3.1) โครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาท ที่น่าจะเร่งให้มีการประมูลก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าคือปี พ.ศ 2562 และ น่าจะมีการประมูลอย่างต่อเนื่องจนถึงปลายปี พ.ศ 2563 

3.2) โครงการทวายที่รัฐสภาพม่าอนุมัติเงินกู้ดิกเบี้ยตํ่าจํานวน 4,500 ล้าน บาท จากรัฐบาลไทยเพื่อนําไปก่อสร้างถนนระหว่างทวาย กับ พุนํ้าร้อนแล้ว

3.3) โครงการโปแตส จ.อุดร กําลังอยู่ในขั้นตอนการอนุมัติประทานบัตรโดยกระทรวงอุสาหกรรม

ในเมื่อเกิดเหตุการณ์ " ตุลาอาถรรพ์ " ซึ่งทําให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงแล้ว เหตุการณ์ " January Effect " และ " Election Rally " ก็น่าจะเกิดขึ้น ซึ่งน่าจะมีผลทําให้ Set Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2561 ไปจนถึงหลังเลือกตั้งทั่วไปในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าคือปี พ.ศ 2562 และ หุ้นกลุ่มที่น่าจะปรับตัวได้ดี ก็น่าจะเป็นหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่น่าจะได้อานิสงค์จากการประมูลงานโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้าน บาทก่อนที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในครึ่งแรกของปีหน้าคือปี พ.ศ 2562

อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นข้างต้นเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้โพสต์เอง และไม่สามารถรับประกันความถูกต้องได้

หมายเหตุ :โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com

 


ศักดิ์