เมื่อต่างชาติเริ่มคำแนะนำเทขายหุ้นจีน

ดูเหมือนว่าความปั่นป่วนของตลาดหุ้นจีน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจะยังไม่หมด เมื่อทางการจีนยังตรวจสอบอย่างเข้มงวดถึงแม้ว่าบริษัทจะมีการเติบโตที่ดี แต่ราคาหุ้นก็ยังร่วงลง

ล่าสุด (19/8/2021) ดัชนีฮั่งเส้งร่วงไปเกือบ 2% นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Alibaba ร่วงลงเกือบ 4% , Tencent -1% และหุ้นยอดนิยมอย่าง Meituan -6% หุ้นยอดนิยมหลายๆตัวมีการทำจุดต่ำสุดใหม่

นักวิเคราะห์ของ บริษัทวาณิชยกิจขนาดใหญ่ในยุโรปอย่าง DZ Bank ออกมาแสดงความเห็นหลายประเด็นในตลาดหุ้นจีนด้วยกัน โดยแสดงความเห็นไปในเชิงลบว่า

1. เป็นครั้งแรกที่บทวิจัยของสถาบันออกมาให้คำแนะนำ "ขาย" โดยเฉพาะหุ้น 2 ตัวใหญ่อย่าง Alibaba และ Tencent

2. นอกจากบริษัทจะมีศักยภาพแล้ว รัฐบาลในประเทศต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนด้วย แต่ประเทศจีนมีเพียงข้อเดียวคือ บริษัทมีศักยภาพ มีการเติบโตที่ดี แต่รัฐบาลกลับไม่ได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุน

3. ความเสียหายที่เกิดขึ้นของบริษัทจากมือของรัฐบาล ทำให้ภาคเอกชนหรือแม้แต่นักลงทุนจีนเองไม่มีสิทธิในการเรียกร้องอะไรเลย พวกเขาได้แต่ก้มหน้า ก้มตายอมรับการควบคุมของรัฐบาลจีน

4. การร่วงลงอย่างหนักของหุ้นจีน ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการศึกษา มีมูลค่าตลาดหายไปมากถึง 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

5. บทวิจัยของ DZ Bank มองว่าทางการจีนจะควบคุมต่อไปอีกอย่างน้อยอีกหลายปี และมีแนวโน้มจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

6. นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเข้าไปซื้อหุ้นจีนตอนนี้เมือน "รับมีดที่ร่วงลงมาและมันจะตัดไปทีละนิ้วเรื่อยๆ"

7. ภาพระยะยาวยอมรับว่ามูลค่าหุ้นจีนน่าสนใจ หุ้นหลายๆตัวราคาถูก แต่ระยะสั้นการเข้ามาควบคุม คือความเสี่ยงที่ไม่สามารถมองออกได้ จึงแนะนำหลีกเลี่ยง จะดีกว่า

เมื่อไม่นานมานี้ ทางรัฐบาลจีนได้เปิดแผน 5 ปีในการยกระดับการควบคุม โดยมีเป้าหมายสำคัญคือขจัดความยากจนให้หมดไปจากประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศความสำเร็จในเรื่องนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตามจากการที่จีนมีเป้าหมายระยะยาวสร้างรัฐสังคมนิยมสมัยใหม่ ทำให้ในระยะหลังมานี้จีนเริ่มหันมาจัดการคนกลุ่มบนของสังคมอย่างจริงจังมากขึ้น
... อีกทั้งการกำกับดูแลไม่ให้ทรัพย์สินส่วนใหญ่ในประเทศกระจุกตัวอยู่กับคนกลุ่มน้อย รวมถึงการชักจูงให้กลุ่มเศรษฐีและคนร่ำรวยตอบแทนสังคมมากขึ้นแล้ว การประชุมเมื่อวันอังคารยังมีการพูดถึงการดูแลและหาจุดสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความยุติธรรมในสังคม รวมถึงการหาจุดสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบมั่นคงและการดูแลความเสี่ยงทางการเงินด้านต่างๆ ด้วย

โดยเป้าหมายอื่นๆ ที่มีการพูดถึงยังรวมถึงการกระจายทรัพยากรของหน่วยงานภาครัฐที่มีความเป็นธรรม การขยายฐานประชากรกลุ่มรายได้ปานกลางให้สูงขึ้น การช่วยให้กลุ่มคนที่มีรายได้ต่ำมีรายได้สูงขึ้น และการดูแลกลุ่มคนที่มีรายได้จากการทำผิดกฎหมายไม่ให้สร้างค่านิยมผิดๆ เกี่ยวกับความร่ำรวยในสังคม

ไม่ง่ายแล้วสำหรับตลาดหุ้นจีน ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องดีในภาพใหญ่ที่รัฐบาลพยายามสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นกับคนในสังคม แต่ผู้จ่าย คือ ความเชื่อมั่นที่หายไป และนักลงทุนที่มีแต่จะเจ็บปวดจากการควบคุมที่เข้มงวดของรัฐบาลมากขึ้น
เราอาจจะต้องกลับมาประเมินกันใหม่ซะแล้ว ...