ตามที่ได้สอบถามผู้คนทั่วๆไป ส่วนใหญ่คิดว่าคริปโตฯไม่มีคุณสมบัติที่สําคัญ 3 ประการที่หุ้นมีคือ :
1) คริปโตฯ ไม่มี Assets ที่จับต้องได้เช่น ที่ดิน, แรงงาน, โรงงาน เป็นต้น
2) คริปโตฯไม่ได้สร้าง Productivity คืออยู่เฉยๆไม่รู้สร้างรายได้และกําไรได้อย่างไร?
3) คริปโตฯไม่มีสินทรัพย์ที่มั่นคงเป็นหลักประกัน เช่นทองคําหนุนหล้ง
ก่อนที่จะตอบคําถามข้างต้น ผู้โพสต์ขอเล่าย้อนกลับไปถึงที่มาที่ไปของคริปโตฯก่อนว่ามีความเป็นมาอย่างไร?
คริปโตฯตัวแรกที่เกิดขึ้นในโลกคือ Bitcoin โดย Satoshi Nakamoto
Satoshi Nakamoto เห็นความเหลื่อมลํ้ากันทางสังคมจากนโยบายของธนาคารกลางและรัฐบาล ( ที่อาจจะโดยจงใจหรือไม่จงใจก็ตาม ) กําหนดนโยบายที่นําพาความเดือดร้อนมาแก่ประชาชนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย
สังเกตุได้ช้ดจากวิกฤตเศรษฐกิจทุกครั้งมีสาเหตุมาจากธนาคารกลางและรัฐบาล และสังเกตุจากข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการโกงกินบ้านเมืองของนักการเมืองและรัฐบาลที่มีให้เห็นและได้ยินทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ไม่มีใครทําอะไรได้
ด้วยการทํางานที่ไร้ประสิทธิภาพของธนาคารกลาง และการโกงกินบ้านเมืองของนักการเมืองและรัฐบาล Bitcoin จึงถือกําเนิดขึ้นโดยประกาศความเป็นอิสระเสรีจากธนาคารกลางและรัฐบาลโดยสิ้นเชิง
อนึ่ง มาตรฐานทองคําได้ถูกยกเลิกมาตั้งแต่ปี 1971 แล้ว เพราะฉะนั้นการพิมพ์ USD ก็ไม่มีอะไรหนุนหลังตั้งแต่ปี 1971 มาจนถึงปัจจุบัน
ต่อไปเป็นการตอบคําถาม :
1) คริปโตฯ ไม่มี Assets ที่จับต้องได้เช่น ที่ดิน, แรงงาน, โรงงาน เป็นต้น คําตอบ คือ คริปโตฯมี Platform ที่เป็นทรัพย์สินได้ เพราะคริปโตฯสามารถสร้าง DeFi, GameFi, NFT, Metaverse และอื่นๆ บน Platform ของตัวเอง แล้วนําไปสร้างรายได้และกําไรในอนาคตได้
2) คริปโตฯไม่ได้สร้าง Productivity คืออยู่เฉยๆไม่รู้สร้างรายได้และกําไรได้อย่างไร? ใช้คําตอบข้อที่ 1 ในการอธิบาย
3) คริปโตฯไม่มีสินทรัพย์ที่มั่นคงเป็นหลักประกัน เช่นทองคําหนุนหล้ง : คําตอบก็คือดอลลาร์สหรัฐฯก็ไม่มีอะไรหนุนหล้งเช่นเดียวกัน
หมายเหตุ : 1) ปัจจุบันมี Bitcoin อยู่ 19 ล้านเหรียญ และมีจํานวนสูงสุด 21 ล้านเหรียญในอีก 118 ปีข้างหน้า ส่วนดอลลาร์สหรัฐฯนั้นพิมพ์ได้แบบไม่จํากัดจํานวน
2) ผู้โพสต์มีความเห็นว่าด้วยความมีอยู่อย่างจํากัดของ Bitcoin และในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯมีอยู่อย่างไม่จํากัด เพราะฉะนั้นในระยะยาว Bitcoin จะมีค่ามากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
โปรดติดตามรายละเอียดได้ในลิ้งค์เพจด้านล่าง :