โบรกฯคาดงบ OR ไตรมาส 3/65

โบรกฯคาดงบ OR ไตรมาส 3/65 กำไรทรุดลงแรง หลังขาดทุนสต็อกน้ำมัน 5 พันลบ.

โบรกเกอร์ คาดผลประกอบการ OR ไตรมาส 3/65 กำไรหดตัวเหลือ 878 ล้านบาท ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากผลขาดทุนของสต๊อกที่เกิดขึ้น 5 พันลบ. หลังโรงกลั่นในกลุ่ม PTT ปิดซ่อมบำรุง ต้องสต็อกน้ำมันเพื่อขายมากขึ้น มองแนวโน้ม Q4/65 ฟื้น จากฤดูขาย Mobility และ Lifestyle คาดราคาหุ้นปรับตัวลดลงตอบรับข่าวแล้ว

.

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คาดว่าผลประกอบการบริษัท บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ในไตรมาส 3/65 อ่อนตัวกว่าคาดมาก จากแนวโน้มกำไรที่จะออกมาต่่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้มาก โดยคาดว่ากำไรไตรมาส 3/65 จะหดตัวเหลือ 878 ล้านบาท ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดจากผลขาดทุนของสต๊อกที่เกิดขึ้น แต่คาดว่าไตรมาสถัดไปจะดีขึ้นจากฤดูขายทั้งใน Mobility และ Lifestyle และคาดว่าราคาหุ้นที่ปรับลงได้สะท้อนข่าวรายไปพอสมควรแล้ว

.

โดยไตรมาส 3/65 จะต่ำกว่าเคยคาดไว้มากจาก 1.กลุ่ม Mobility ปริมาณขายน้ำมันในไทย -8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ที่ 6,313 ล้านลิตร แต่คาดว่าค่าการตลาดจะต่ำลงอย่างมีนัยเนื่องจากในไตรมาส 4/65 โดยโรงกลั่น PTTGC และ IRPC หยุดซ่อมบำรุงทำให้บริษัท ต้องเตรียมสต็อกไว้เพื่อขายในปริมาณมากกว่าปกติซึ่งเป็นช่วงราคาน้ำมันปรับตัวสูงแต่สิ้นงวดราคาน้ำมันปรับลงทำให้มีขาดทุนจากสต็อกสูงถึง 5,000 ลบ.

.

2.กลุ่ม lifestyle แม้ปริมาณขายกาแฟ +2% เป็น 93 ล้านแก้ว แต่ราคาวัตถุดิบเพิ่มทาให้อัตรากำไรหดตัว

.

3.ธุรกิจต่างประเทศปริมาณขายน้ำมัน -3% ที่ 373 ล้านลิตร จากการดำเนินงานในลาวที่ ไม่ดี แต่หากฟิลิปปินส์และกัมพูชายังเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวนแก้ว +4% เมื่อเทียบกับ QoQ ที่ 6.3 ล้านแก้วและคาดจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น q-q จากการกิจกรรมส่งเสริมการขายมากขึ้น ทำให้คาดกำไรสุทธิจะเหลือเพียง 878 ลบ. -87% q-q

.

อย่างไรก็ตาม บริษัท ยังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐานที่ 32 บาทต่อหุ้น

.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น OR ปรับตัวลดลงกว่า 12% ในรอบกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา โดยราคาลดลงจากจุดสูงสุดที่ 27.50 บาท เหลือ 24.10 บาท(ราคาปิด 27 ต.ค.)

***********************************