ห้องเม่าปีกเหล็ก

เผย 5 ปัจจัยเสี่ยงขแงโลกที่อาจส่งผลกระทบถึงไทย

โดย Freedom VI
เผยแพร่ :
78 views

        นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง เปิดเผยว่า ปี 2560 ยังมีปัจจัยเสี่ยงอยู่หลายประการ ที่อาจทำให้การคาดการณ์ต่างๆ คลาดเคลื่อนได้ โดยเฉพาะจากปัจจัยภายนอก 5 ส่วน ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง และอาจกระทบถึงไทยได้

 

ปัจจัยแรก นโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ ยังเป็นตัวแปรสำคัญ ที่จะปลุกเศรษฐกิจในอเมริกาให้โตได้ราว 2-2.5% จากการลดภาษีต่างๆ และมีแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใช้งบลงทุนนับแสนล้านบาทนั้น จะเป็นตัวเร่งทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศอเมริกาฟื้นตัว

แต่สิ่งที่จะตามมาคือ เกิดเงินเฟ้อสูงขึ้น ดอกเบี้ยในอเมริกาจะสูงขึ้น และธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อป้องกันเงินเฟ้อ ก็จะส่งผลให้ตลาดการเงิน ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร รวมถึงตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จะเกิดการผันผวน และจะเกิดการผันผวนของค่าเงินของแต่ละประเทศในประเทศที่กำลังพัฒนา

 

ปัจจัยที่ 2 ในระยะกลางนโยบายทรัมป์อาจไปสร้างปัญหาหนี้สาธารณะของอเมริกาห้ขยายตัวสูงขึ้น ปัจจุบันมีอยู่ 75% ของจีดีพี จะส่งผลกระทบต่อโลกได้

 

 

ปัจจัยที่ 3 การที่ทรัมป์กีดกันการค้าสูงขึ้นโดยเฉพาะกับจีนนั้น อาจจะทำไม่ได้ทั้งหมดตามที่ประกาศไว้ แต่จะกีดกันการค้าเฉพาะบางผลิตภัณฑ์ หรือบางประเทศ ตรงนี้จะนำไปสู่ผลกระทบที่ตามคือการค้าระหว่างประเทศชะลอตัวลง อีกทั้งนโยบายกีดกันทางการค้าก็จะทำให้การส่งออกของแต่ละประเทศไม่สดใสด้วย

 

 

ปัจจัย 4 คือความเสี่ยงจากจีน ที่ยังต้องแก้ปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เผชิญปัญหาหนี้สาธารณะและหนี้เอกชนรวมสูงถึง 265% ของจีดีพี อีกทั้งยังมีปัญหาลูกโป่งในภาคอสังหาฯ และเริ่มรับศึกหนักจากที่การส่งออกมีค่าแรงที่สูงขึ้น จนทำให้จีนต้องหันมาบริโภคภายใน พร้อมกับบริหารหนี้ในระบบ ดังนั้นจากความเสี่ยงของจีนถ้ายิ่งขยายตัวอย่างไม่มีเสถียรภาพ ต่อไปอีก ก็จะมากระทบต่อโลก ต่ออาเซียนได้ เพราะจีนเป็นตลาดใหญ่

 

ปัจจัยที่ 5 ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากกรณีการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของอังกฤษ หรือเบร็กซิท ที่ขณะนี้ยังไม่ได้เริ่มต้น ถ้ามองในแง่ลบจะทำให้อัตราการเติบโตกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) ขยายตัวลดลง

 

ขอบคุณแหล่งข่าว : ฐานเศรษฐกิจ, ประชาชาติธุรกิจ 

 


Freedom VI