ที่มาภาพ : www.fnoutlet.com
FN หรือ บมจ.เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท เชื่อว่ามีชาวไทยจำนวนมากน่าจะคุ้นหูคุ้นตาห้างสรรพสินค้า Outlet ที่อยู่ตามต่างจังหวัดในสถานที่ท่องเที่ยว ป้ายโฆษณาที่มีความโดดเด่นตลอดเส้นทาง การตกแต่งสถานที่ก็ดูมีความทันสมัย น่าเข้าไปเดินซื้อของหรือเดินเล่นทำกิจกรรมของครอบครัว
แต่ในมุมมองของนักลงทุนแล้วก็ต้องบอกว่าพบกับความเจ็บปวดมาตลอดเส้นทาง เป็นอย่างไรเรามาสำรวจกันครับ
หุ้น FN เข้ามาเทรดในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2559 ด้วยราคาพาร์ 0.5 บาท/หุ้น ด้วยราคา IPO ที่ 3.88 บาท ราคาหุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 9.5 บาท ในปี 2559 ก่อนที่จะร่วงมาตลอดทางที่ราคาต่ำสุด 2.46 บาท ในปี 2561 สอดคล้องกับผลประกอบการที่ไม่ใครจะดีนัก
ในปี 2559 บริษัทมีรายได้ 1.09 พันล้าน กำไรสุทธิ 146 ล้าน มี Net Margin อยู่ที่ 13.32%
ในปี 2560 บริษัทมีรายได้ 1.1 พันล้าน กำไรสุทธิ 87 ล้าน มี Net Margin อยู่ที่ 7.83%
ในปี 2561 ไตรมาสที่ 1 บริษัทมีรายได้ 274 ล้านบาท กำไรสุทธิ 15.7 ล้าน มี Net Margin อยู่ที่ 5.74%
จะเห็นได้ว่ารายได้เพิ่ม แต่กำไรลดลงเรื่อยๆ อัตรากำไรสุทธิลดลง เป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก ในขณะเดียวกันราคาหุ้นก็ตอบรับลงไปมากพอสมควรกับการลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 2.46 บาท
ผู้บริหาร นายเบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา ชี้แจงว่าบริษัทตั้งเป้าในปี 2561 เติบโต 10% โดยจะมุ่งเน้นไปที่สินค้าแรนด์ใหม่เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้า อีกทั้งยังมีการทำรูปแบบออนไลน์โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ประมาณ 5% จากเดิมที่มีสัดส่วน 1-2% ของรายได้รวม
ทั้งนี้บริษัทจะขยายเพิ่มอีก 2 สาขา โดยจะมีความชัดเจนในไตรมาส 2/61
ปัจจุบัน บริษัทมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 10 แห่ง ได้แก่ เพชรบุรี กาญจนบุรี พัทยา ปากช่อง สิงห์บุรี หัวหิน ศรีราชา พระนครศรีอยุธยา หาดใหญ่ และ ฉะเชิงเทรา ที่เพิ่งเปิดให้บริการ
เมื่อวันที่ 10/7/2561 หุ้น FN พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงพร้อมกับวอลุ่มที่เข้ามาเทรดเป็นจำนวนมาก ทำให้นายเบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FN ต้องออกมาแจ้งกับ “สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย” ว่าไม่ทราบสาเหตุที่หุ้นพุ่ง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญในบริษัท ผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ได้ขายหุ้น แต่สำหรับภาพรวมได้มีการปรับลดเป้าหมายลงจากที่คาดว่าจะโต 10% อาจจะโตไม่ถึงเพราะกำลังซื้อยังไม่กลับมา .. ปัจจุบันบริษัทกำลังก่อสร้างสาขาระยอง
ดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล เคยวิเคราะห์หุ้น FN เอาไว้ว่า บริษัทมีจุดเด่นที่ผลิตสินค้าตัวเอง ออกแบบเอง และมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง นั้นส่งผลให้กำไรขั้นต้นดีมาก นอกจากจะเป็นธุรกิจค้าปลีกแล้วังเติบโตควบคู่ไปกับธุรกิจการท่องเที่ยวอีกด้วย โดยแหล่งทำรายได้หลักมีสาขาศรีราชา ปากช่อง และหัวหิน
นอกจากมีธุรกิจค้าปลีกแล้ว ยังมีธุรกิจแบ่งพื้นที่ให้เช่าซึ่งจะเติบโตไปตามสาขาที่มีเพิ่ม ประเด็นสำคัญคือ การสร้าง Outlets ขนาดใหญ่ต้องใช้พื้นที่มาก บริษัทจะหาเส้นทางเปิดเพิ่มได้อย่างไร ตรงนี้ยังเป็นคำถามอยู่
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนเน้นคุณค่า วิเคราะห์หุ้น FN เอาไว้ว่าโมเดลธุรกิจเขาน่าสนใจมาก เป็น First Mover รายแรกๆที่เข้ามาทำธุรกิจแบบนี้ อีกทั้งการโฆษณาของบริษัทเน้นการทำป้ายใหญ่ๆก่อนถึงห้าง Outlet ดูโดดเด่นสะดุดตาสำหรับคนขับรถ อีกทั้งการขับรถนานๆอาจจะลงไปเดินเล่นพักผ่อน เป็นกิจกรรมครอบครัวที่น่าสนใจ สินค้าก็ดูน่าสนใจ มีคุณภาพและไม่ได้แพงมาก
แต่ธุรกิจประเภทนี้ไม่มี Barrier to entry คือถ้าใครมีเงิน มีที่ดินว่างๆก็สามารถเข้ามาทำกันได้ง่ายๆ ประเด็นคือบริษัทจะมีวิธีการอย่างไรที่จะดึงนักท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่เป็นแค่ "ทางผ่าน" อย่างในปัจจุบัน
ในต่างประเทศ Outlet ของเขาเป็น "จุดหมายปลายทางเพื่อซื้อสินค้า" ไม่ใช่แค่ทางผ่านสำหรับคนขับรถ ถ้าบริษัทเปลี่ยนโมเดลใหม่เป็นเปิด outlet กลางเมืองเลย ตรงนี้เป็นโมเดลที่แตกต่างแล้ว
คำถามสำคัญ คือ ตอนนี้เส้นทางมีจำกัด คู่แข่งก็เพิ่มมากขึ้น บริษัทจะทำอย่างไรต่อไป .....
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ราคาหุ้น บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) หรือ FN วันนี้มีแรงเข้าเก็งกำไรอย่างมากหลังจากที่ราคานิ่งมานาน ซึ่งตามสัญญาณทางเทคนิคประเมินแนวต้านไว้ที่ 3.40 บาท อย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไร เนื่องจากปกติราคาหุ้นไม่ได้มีสภาพคล่องมากนัก
สรุป .....
ในมุมมองของดร.วิศิษฐ์ และดร.นิเวศน์ ไปในทางเดียวกันคือ การขยายสาขาไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ FN เพราะเส้นทางท่องเที่ยวจากกรุงเทพ และหัวเมืองใหญ่มีจำกัด ต้องรอดูกันต่อไปว่า FN จะมีกลยุทธ์หรือโมเดลธุรกิจใหม่ๆหรือไม่ ในขณะที่นายประกิต สิริวัฒนเกตุไม่แนะนำให้เข้าซื้อเพราะหุ้นไม่มีสภาพคล่อง
ปัจจุบัน FN มีค่า P/E ที่ 42 เท่า และ P/BV 2.23 เท่า และปันผลเฉลี่อยุ่ที่ 1.07% เมื่อมาถึงตรงนี้ก็อยู่ที่มุมมองนักลงทุนแล้วว่ายังมอง FN เป็นหุ้น Growth อย่างที่คาดกันไว้หรือไม่ เพราะก่อนเข้ามาตลาด FN ถูกคาดหวังไว้ว่าการขยายสาขาเพิ่มคือการ Growth ในอนาคต นักลงทุนจึงยอมเทรด P/E ที่สูง แต่ในความเป็นจริงนั้นการทำธุรกิจหลังจากขยายสาขานั้นเป็นช่วงของ Investment Phase ก่อนที่จะกลายมาเป็น Growth Phase ในภายหลัง
ถ้านักลงทุนมองว่าน่าสนใจเพราะ "การเติบโต" ที่กำลังจะมาในอนาคต ก็ถือว่าน่าสนใจ ในอีกแง่หนึ่งถ้านักลงทุนมองว่าราคาเทรดกันที่พรีเมี่ยมเกินไป ราคานี้ก็ไม่น่าสนใจครับ....
**การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจทุกครั้งด้วยตนเอง
แหล่งข้อมูล
https://www.stock2morrow.com/article-detail.php?id=891
https://www.ryt9.com/s/iq05/2797082
http://www.efinancethai.com/LastestNews/LatestNewsMain.aspx?ref=A&id=bXA0cjQ3MHJUZEU9&security=FN