BANPU เผย Q2/65 กำไรโต 865% รับราคาถ่านหินพุ่ง ส่วน BPP กำไรลดลง 39%

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU รายงานผลดำเนินงานไตรมส 2/65 มีกำไรสุทธิ 12,789.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 865% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,325.45 ล้านบาท โดยผลกำไรที่เติบโตขึ้น มาจากราคาถ่านหินและราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 20 จากไตรมาสก่อนหน้า มาอยู่ที่ 156.66 เหรียญสหรัฐต่อตัน
.
อีกทั้งปริมาณการขายปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะเหมืองในประเทศออสเตรเลีย และราคาก๊าซธรรมชาติเฉลี่ย 6.64 เหรียญต่อพันลูกบาศก์ฟุต ปรับตัวสูงขึ้น 38% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้บริษัทฯ รายงานผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
.
โดยรายงานกำไรสุทธิจำนวน 372 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยได้รวมการรับรู้กำไรจากการลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติ XTO ในประเทศสหรัฐอเมริกาจำนวน 164 ล้านเหรียญสหรัฐ และผลกระทบจากการรับรู้ผลขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงผ่านอนุพันธ์ทางการเงินแล้ว
.
ทั้งนี้ บริษัทฯ รายงานกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา(EBITDA)รวม 948 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 59% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดย EBITDA จากธุรกิจถ่านหินจำนวน 630 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 58% จากไตรมาสก่อนหน้า) ธุรกิจก๊าซธรรมชาติจeนวน 264 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 58% จากไตรมาสก่อนหน้า) ธุรกิจไฟฟ้าจeนวน 58 ล้านเหรียญสหรัฐ (เพิ่มขึ้น 46% จากไตรมาสก่อนหน้า)และธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานจำนวน -4 ล้านเหรียญสหรัฐ
.
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 23,053.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 706% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,860.56 ล้านบาท
.
ส่วน บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP รายงานผลดำเนินงานไตรมาส 2/65 มีกำไรสุทธิ 685.22 ลดลง 39.12% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,125.62 ล้านบาท โดยรวมผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 340 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการวัดมูลค่าตราสารอนุพันธ์จำนวน 943 ล้านบาท ลดลง 39% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
.
โดยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA จำนวน 1,443 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า ส่วนหลักมาจากผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า HPC ที่สามารถเดินเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคง และโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ Temple I ซึ่งมีปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าและราคาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น จากการที่รัฐเท็กซัสซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนซึ่งเป็นช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในรอบปี
.
ด้านผลการดำเนินงาน 6 เดือน บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 3,603.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66.84% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 2,159.78 ล้านบาท
.
ทั้งนี้บริษัทฯ เน้นการลงทุนในประเทศที่มีความเติบโตของการใช้ไฟฟ้า และมีนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากการผนวกกำลังหรือ Synergy ระหว่างกลุ่มบ้านปู เพื่อให้บรรลุเป้าหมายกำลังการผลิต 5,300 เมกะวัตต์ภายในปี 68 ตามแผน
***********************************