แรงขายแบงก์-พลังงาน ฉุดหุ้นปิดลบ 32.56 จุด SET ประคองตัว 1,600 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 13 มิถุนายน ปิดที่ระดับ 1,600.06 จุด ลดลง 32.56 จุด (-1.99%)โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุดที่ 1.616.31 จุด ต่ำสุดที่ 1,599.34 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 73,466 ล้านบาท
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า วันนี้ปรับตัวลดลงในทิศทางตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด หลังดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) พุ่งขึ้น 8.6% ในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ 8.3% โดยต้องติดตามท่าทีของการประชุมเฟดที่จะมีขึ้นในวันที่ 14-15 มิ.ย.
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) อายุ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 3.22% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี 8 เดือน ด้านตลาดดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 600 จุด และ ตลาดหุ้นยุโรปลดลงกว่า 2%
นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจากการกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์พื้นที่บางส่วนในเมืองเซี่ยงไฮ้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้ง ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าอาจจะเข้ามากระทบต่อเศรษฐกิจอีกครั้ง
สำหรับพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.) คาดดัชนี SET จะอ่อนตัวลงต่อเนื่อง และคาดว่าจะสามารถฟื้นตัวได้หากผลการประชุมเฟดออกมาตามคาด โดยต้องติดตามแนวรับสำคัญที่ 1,600 จุด หากยืนไม่อยู่ ให้แนวรับถัดไปที่ 1,580 จุด ให้แนวต้านที่ 1,616-1,620 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
- TOP มูลค่าการซื้อขาย 3,132.22 ล้านบาท ปิดที่ 53.50 บาท ลดลง 3.25 บาท
- PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,573.06 ล้านบาท ปิดที่ 36.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
- SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,422.22 ล้านบาท ปิดที่ 108.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
- KB ANK มูลค่าการซื้อขาย 1,873.76 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
- OR มูลค่าการซื้อขาย 1,753.57 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท ลดลง 1.00 บาท