ถือ BTS แค่ 6 เดือน ราคาทรุดไป 24.29%
โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” สวนหุ้นดิ่ง
ชี้!ข่าวร้ายปปช.กล่าวหา ไม่กระทบพื้นฐาน

.
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS นับเป็นหุ้นขนส่งมวลชนระบบรางอีกหนึ่งตัวที่ถูกพูดถึงอย่างหนาหูในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จากประเด็นข่าวที่ว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และพวกรวม 13 คน
.
ว่าด้วยการจ้างบมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)หรือ BTSC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BTS เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง ถึงปี 2585 โดยหลีกเลี่ยงและไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. จนทำให้ราคาหุ้นของ BTS ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงจากการรับรู้ข่าวกระแสลบ
.
แต่อย่างไรก็ดี ทาง Wealthy Thai ได้ทำการรวบรวมข้อมูลความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในช่วง 6 เดือนย้อนหลัง(ณ วันที่ 15 ก.ย.65 ถึง 14 มี.ค.66) ปรับตัวลดลงถึง 24.29% หรือมาอยู่ที่ราคา 6.70 บาท ซึ่งอาจมีนักลงทุนตั้งคำถามและข้อสงสัยขึ้นว่าการลงทุนในหุ้น BTS จะยังคงเป็นที่สนใจหรือไม่ซึ่งในวันนี้เราจะพาไปคำตอบกัน
.
โดยบทวิเคราะห์ของบล.กรุงศรี ให้คำแนะนำ “ซื้อ” แต่ไม่แนะนำให้นักลงทุนซื้อที่ราคาปัจจุบัน เนื่องจากประเด็นค้างคาจากข้อกล่าวหาของ ปปช. จะจำกัดอัพไซด์ของราคาหุ้น ซึ่งคิดว่าระดับที่ควรเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรคือราคาในกรณีเลวร้ายที่สุดประเมินไว้ที่ 6.40 บาท หลังหักมูลค่าสัญญา O&M 3 บาทต่อหุ้นไปแล้ว
.
อย่างไรก็ดีเชื่อว่าการชี้แจงของ BTS จะช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนในตลาดเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของ ปปช. ไปได้บางส่วน โดยเฉพาะในส่วนที่กล่าวถึงผลการสอบสวนของ DSI และสำนักงานอัยการสูงสุด อย่างไรก็ตาม คาดว่าเรื่องนี้จะยังคงเป็นประเด็นค้างคาไปจนกว่า ปปช. จะยกเลิกข้อกล่าวหา หรือ ศาลไม่รับคำฟ้อง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะได้ข้อสรุป
.
ด้านบทวิเคราะห์ของบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ให้คำแนะนำ “ซื้อ” และราคาพื้นฐานที่ 10 บาท โดยประเด็นดังกล่าวยังไม่กระทบต่อปัจจัยพื้นฐานและไม่ได้เกี่ยวกับสัมปทานปัจจุบันที่จะหมดอายุลงถึงปี 2572 เนื่องจากป็นสัญญาเฉพาะการเดินรถหลังจากหมดอายุสัญญาสัมปทาน คือตั้งแต่ปี 2572-2585 ครอบคลุมเส้นทางหลัก (Core Line) และส่วนขยายต่างๆ
.
สำหรับประเด็นนี้ ประเมินว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการพิสูจน์จนกว่าจะเสร็จเป็นระยะเวลานานหรือจะยืดเยื้อเป็นเวลาอีกหลายปี เนื่องจากมีกระบวนการต่างๆมีอีกหลายขั้นตอน ขึ้นกับเงื่อนไขหลายประการ แต่อย่างไรก็ดีประเด็นที่เข้ามาจะเป็นผลกระทบต่อเซนติเม้นต์เชิงลบในระยะสั้น
.
แต่อย่างไรก็ดี สำหรับปัจจัยพื้นฐานบริษัทยังคงทำธุรกิจบริหารเดินรถและบันทึกรายได้ปกติ เพราะบริษัทได้ปฎิบัติตามสัญญาเดินรถอย่างถูกต้อง และยังได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองของไทยเต็มที่หลัง COVID-19 คลี่คลาย ทำให้ผลประกอบการของ BTS และบริษัทในกลุ่มหลักๆ เช่น BTSGIF,VGI,RABBIT มีการฟื้นตัวที่ดี