ห้องเม่าปีกเหล็ก

HOT NEWS

โดย eighteen nineteen
เผยแพร่ :
44 views

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 797.60 จุด กังวลเฟดเมินหั่นดอกเบี้ยเดือนธ.ค.

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 700 จุดในวันพฤหัสบดี (13 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากการที่นักลงทุนลดความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดมีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและและมีความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกันเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของหุ้น Nvidia และหุ้นบริษัทเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายอื่น ๆ ยังเป็นปัจจัยฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงด้วย

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,457.22 จุด ลดลง 797.60 จุด หรือ -1.65%,

 ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,737.49 จุด ลดลง 113.43 จุด หรือ -1.66%

 และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,870.36 จุด ลดลง 536.10 จุด หรือ -2.29%

แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามบังคับใช้ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อยุติการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ แต่แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า อาจไม่มีการเผยแพร่ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค. เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวได้รับผลกระทบจากการชัตดาวน์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญต่อการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของเฟด

นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้แสดงความลังเลที่จะสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม โดยระบุถึงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานค่อนข้างมีเสถียรภาพหลังจากที่เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งท่าทีดังกล่าวของเจ้าหน้าที่เฟดทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนธ.ค.

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 47% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. จากเดิมที่ให้น้ำหนัก 70% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มเทคโนโลยี ร่วงลง 2.73% และ 2.37% ตามลำดับ ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น 0.31%

หุ้นบริษัทเทคโนโลยีและบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ AI ร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่ามูลค่าหุ้นในกลุ่มนี้อาจสูงเกินจริง โดยหุ้น Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิป AI ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ร่วงลง 3.6% ขณะที่หุ้น Tesla ดิ่งลง 6.6% และหุ้น Broadcom ร่วงลง 4.3%

นักวิเคราะห์จากบริษัท Spartan Capital Securities ในนิวยอร์กกล่าวว่า หุ้นกลุ่มธุรกิจ AI มีการปรับฐานเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนหมุนเวียนการลงทุนออกจากหุ้นกลุ่มนี้ โดยหลักฐานล่าสุดคือดัชนีหุ้นคุณค่าใน S&P500 (S&P500 Value Index) ดีดตัวขึ้น 1% ในสัปดาห์นี้ ขณะที่ดัชนีหุ้นเติบโตใน S&P500 (S&P500 Growth Index) ปรับตัวลง 0.6%

สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้น Walt Disney ร่วงลง 7.8% หลังเปิดเผยรายได้ที่ต่ำกว่าคาด เนื่องจากธุรกิจบันเทิงของบริษัทได้รับผลกระทบจากเครือข่ายโทรทัศน์ที่ซบเซา และภาพยนตร์ที่ออกฉายในโรงภาพยนตร์ทำผลงานได้ไม่ดีนัก

หุ้น Cisco Systems พุ่งขึ้น 4.6% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรและรายได้ในปีงบการเงิน 2568 เนื่องจากเชื่อมั่นว่าความต้องการอุปกรณ์เครือข่ายของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง

ส่วนหุ้นผู้ผลิตอุปกรณ์หน่วยความจำอย่าง Western Digital ร่วงลง 5.4%, หุ้น Seagate ดิ่งลงกว่า 7% และหุ้น SanDisk ทรุดตัวลงเกือบ 14% หลังจากบริษัท Kioxia Holdings ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์หน่วยความจำสัญชาติญี่ปุ่น รายงานยอดขายและกำไรลดลง

 


eighteen nineteen