31 ตุลาคม 2559 -- Company Update : STA : บล.กรุงศรี จำกัด(มหาชน)
Sri Trang Agro-Industry
เริ่มเข้าสู่ขาขึ้น (TP Bt 17.0, OUTPERFORM)
- ยังคงมุมมองว่าราคายางเข้าสู่ขาขึ้นแล้ว โดยคาดว่าระดับสต็อกยางที่ต่ำสุดในรอบสองปีที่ท่าเรือ Qingdao จะทำให้เกิดการสะสมสต็อกรอบใหม่ และหนุนอุปสงค์ NR
- คาดว่าอุปสงค์ยางรถยนต์จะโต 8.4% CAGR ในช่วงปี 2016-21 เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้องเปลี่ยนยางใหม่หลังจากที่ยอดขายรถยนต์พุ่งกระฉูดในปี 2010
- แนะนำให้ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่สำหรับปี FY17 ที่ 17 บาท เรามองว่าหุ้น STA เป็น proxy ที่ดีสำหรับราคายางธรรมชาติที่เข้าสู่ขาขึ้น โดยให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4% แถมยังมี upside อีกมาก
อุปทานยางที่ขาดแคลนทำให้สต็อกที่ท่าเรือ Qingdao ต่ำสุดในรอบสองปี ในขณะที่ราคา butadiene ที่ดีดตัวขึ้นจะช่วยหนุนราคา NR
เรายังคงมุมมองว่าราคายางธรรมชาติ (natural rubber หรือ NR) ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดจะเริ่มกลับเข้าสู่ช่วงวัฏจักรขาขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2011 ทั้งนี้ อุปทานที่ลดลงจากพื้นที่เพาะปลูกใหม่ และปริมาณฝนที่ตกเพิ่มขึ้นจะทำให้ผลผลิตยางในประเทศไทยลดลง 2% yoy เหลือ 4.4 ล้านตัน และยิ่งทำให้สภาวะอุปสงค์-อุปทานของยางตึงตัวขึ้นไปอีก ส่วนอุปสงค์ก็ยังคงแข็งแกร่งจากยอดขายรถยนต์ในประเทศจีนที่เพิ่มขึ้น 15% ใน 9M16 ในขณะที่สต็อกยางธรรมชาติที่ท่าเรือ Qingdao (ในประเทศจีน) ก็อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบสองปีที่ 50,000 ตันน่าจะทำให้ผู้ผลิตยางรถยนต์เริ่มสะสมสต็อกรอบใหม่ ซึ่งจะช่วยหนุนทั้งราคาและอุปสงค์ NR ในอีกหกเดือนข้างหน้า นอกจากนี้ ราคายงยังได้แรงหนุนจากการที่ราคา butadiene (BD) พุ่งขึ้นถึง 129% YTD เพราะสินค้าขั้นปลายของ BD เป็นสินค้าที่ทดแทนกันได้บางส่วนกับ NR และราคา BD ก็มีสหสัมพันธ์กับราคา NR สูงถึงประมาณ 85% ดังนั้น เราจึงเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนราคา NR
ได้ประโยชน์เต็มๆ ในช่วงขาขึ้น เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี FY17F ขึ้นอีก 4% เพื่อสะท้อนมุมมองว่าจุดต่ำสุดไปผ่านพ้นไปแล้ว
ในช่วงขาลงที่ยาวนานถึง 6 ปีของตลาดยาง มีผู้ผลิตและผู้ค้าหลายรายที่อยู่ไม่รอด แต่ STA ยังสามารถค่อยๆ เพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งตลาดได้จนถึงประมาณ 50-60% ของปริมาณการส่งออกยางแท่งของไทย ดังนั้น เราจึงเชื่อว่า STA จะได้อานิสงส์เต็มๆ จากการที่ตลาดกลับเข้าสู่ขาขึ้นอีกครั้ง ทั้งนี้ ราคา NR ได้ขยับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 27% YTD เป็น US$1.5/kg และเราคาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากอุปสงค์ยางรถยนต์ที่แข็งแกร่งถึง 8.4% CAGR ในช่วงปี 2016-2021 ตามยอดขายรถยนต์ที่พุ่งสูงขึ้นมาตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งกำหนด 6 ปีที่ต้องเปลี่ยนยางจะมาถึงในปี 2016 ซึ่งจะช่วยให้อุปสงค์ NR เพิ่มขึ้น เราได้ปรับเพิ่มสมมติฐานราคา SICOM TSR20 ปี FY17F เป็น US$1.65/kg จาก US$1.4/kg แต่ปรับลดสมมติฐานกำไรจากการป้องกันความเสี่ยงลง 21% เพื่อสะท้อนถึงมุมมองของเราว่าราคา NR กลับเข้าสู่ขาขึ้น และทำให้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี FY17F ขึ้นอีก 4% เป็น 1.56 พันล้านบาท
แนะนำให้ซื้อ และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 17 บาท (จากเดิม 14.2 บาท) หลังจากขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี FY17F และปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้น
ราคาเป้าหมายของเราอิงจาก P/E ปี FY17F ที่ 14x เท่ากับค่าเฉลี่ย 6 ปีย้อนหลัง หรือคิดเป็น P/BV ที่ 1x ทั้งนี้ STA สามารถทำกำไรได้ดีแม้ในช่วงที่ธุรกิจอยู่ในขาลง โดยมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 4% เราเชื่อว่าการที่ราคา NR ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วจะส่งผลดีอย่างมากต่อ STA จากทั้งราคาขาย และ margins ที่เพิ่มขึ้น ความเสี่ยงหลักได้แก่การที่ราคายาง TSR20 ลดลงต่ำกว่า US$1.2/kg