ห้องเม่าปีกเหล็ก

CANSLIM-แนวทางวิเคราะห์หุ้นพื้นฐานดี

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
101 views

ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนเก็งกำไร หรือนักลงทุนเน้นคุณค่าก็ตาม จะมีแนวทางกาให้นักลงทุนตัดสินใจมากกมายหลายระบบ หลายหลักการ สำหรับนักลงทุนเองต้องหาตัวตนให้พบว่า ตัวเองเหมาะที่จะลงทุนแบบไหน ไม่มีใครสามารถตอบได้ บางคนเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา ก็ยังไม่พบตัวตนเลยก็มี วันนี้ผู้เขียนขอนำเสนอ แนวทางหนึ่งที่ถือว่าเป็นแนวทางที่ดี ในการเลือกลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง นั่นก็คือ CANSLIM มีหลักการอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันครับ

CANSLIM เป็นวิธีแนวทางการตัดสินใจลงทุนแบบหนึ่ง ซึ่งคิดค้นโดย William O’Neil ผู้ทำการศึกษาลักษณะหุ้นสามัญ เขาพบว่าหุ้นที่มีคุณลักษณะ CANSLIM จะให้ผลตอบแทนในอัตราที่สูง โดย CANSLIM เป็นคำย่อของอักษรตัวแรกของคำทั้ง 7 คำ คือ

               ตัว C คือ Current Quarterly Earnings per Share

หมายถึง กำไรต่อหุ้นในไตรมาสล่าสุด ควรเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 15-20% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)

                ตัว A คือ Annual Earnings Growth

หมายถึง อัตราการเติบโตของกำไรสุทธิต่อปี โดยในรอบ 5 ปีควรมีอัตรากำไรสุทธิมากกว่า 15% ขึ้นไป บางปีกำไรสุทธิอาจลดลงได้ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจ ไม่ได้เกิดจากตัวกิจการโดยตรง แต่ถ้าเกิดการกิจการโดยตรงก็ต้องพิจารณาว่า กิจการ พอมีแนวทางแก้ไขในอนาคตอย่างไร เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะกลับมามีกำไรที่ดีได้อีกในอนาคตอันใกล้

               ตัว N คือ New Product หรือ New Management

หมายถึง เป็นหุ้นที่มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือมีระบบการบริหารงานแบบใหม่ ๆ ซึ่งนักลงทุนมักจะพบหุ้นประเภทนี้บ่อย ๆ นักลงทุนจะคาดหวังการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ นี้จะทำให้ผลประกอบการออกมาดี จึงมีการเก็งกำไรกันมาก ทำให้ราคาหุ้นมีการปรับตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ

               ตัว S คือ Shares Outstanding

หมายถึง จำนวนหุ้นที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดซื้อขาย โดยถ้าจำนวนหุ้นหมุนเวียนในตลาดในจำนวนที่น้อย โอกาสที่ราคาจะปรับตัวสูงขึ้นสามารถทำได้ง่ายกว่า หุ้นที่มีจำนวนหมุนเวียนในตลาดมากกว่า

                ตัว L คือ Leading Industry

หมายถึง ผู้นำในอุตสาหกรรมนั้น ๆ เช่น กลุ่มสื่อสาร จะมีหุ้น ADVANCE เป็นผู้นำในกลุ่มสื่อสาร เป็นต้น ซึ่งมักจะมีพื้นฐานที่ดี เป็นที่ต้องการของนักลงทุน

                ตัว I คือ Institutional Sponsorship

หมายถึง ผู้สนับสนุนรายสถาบัน หุ้นที่นักลงทุนสถาบันส่วนใหญ่ชอบลงทุน ถ้าตลาดเป็นขาขึ้น ก็ส่งเสริมให้ราคาหุ้นที่นักลงทุนสถาบันถืออยู่ ปรับตัวสูงขึ้นได้เร็ว แต่ในยามตลาดเป็นขาลง นักลงทุนสถาบันก็อาจปรับพอร์ต มีการขายออกได้ เราในฐานะนักลงทุนรายย่อยอาจเจ็บตัวได้ ดังนั้นการลงทุนต้องเข้าใจสถานการณ์ของตลาดหุ้นด้วย

                 ตัว M คือ Market Direction

หมายถึง ทิศทางตลาด ต่อเนื่องจากข้อที่ผ่านมา การลงทุนในหุ้น เราต้องเข้าใจก่อนว่า ตลาด ณ ปัจจุบันเป็นอย่างไร เกื้อหนุนต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนหรือไม่ เพราะว่า ถ้าผลประกอบการออกมาดี ก็ส่งผลต่อราคาหุ้นให้ปรับตัวสูงขึ้นได้ ดังนั้นถ้าตลาดมีแนวโน้มอ่อนตัวลง เราควรชะลอการลงทุนไว้ก่อน รอดูทิศทางตลาดที่สดใส แล้วค่อยเข้ามาใหม่ก็ไม่สายไป

หลักการเลือกหุ้นในแนวทาง CANSLIM เราจะได้หุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และเมื่อได้ลงทุนในหุ้นตัวนั้นแล้ว เราจะต้องหมั่นคอยติดตามผลงานของหุ้นนั้น ยังเป็นไปตามหลักของ CANSLIM หรือไม่ ถ้ามีบางข้อไม่เป็นไปตามหลัก CANSLIM เราต้องเพิ่มความระมัดระวังติดตามอย่างใกล้ชิด


คนเล่นหุ้น