ห้องเม่าปีกเหล็ก

นักลงทุนควรจะอยู่ใน 2 กระแสนี้ ไม่งั้นเจ๊งตายห่ะ!

โดย กองแก้ว
เผยแพร่ :
435 views

 นักลงทุนควรจะอยู่ใน 2 กระแสนี้ ไม่งั้นเจ๊งตายห่ะ!
 

1) กระแส Renewable Energy : กระแสนี้เริ่มจากรองประธานาธิบดี อัล กอร์ สมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา รณรงค์เรื่องปัญหาโลกร้อนอันเกิดจากการใช้ Fossil Fuels เช่นน้ามัน, ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ และแนะนำให้หันมาใช้ Renewable Energy อันได้แก่พลังงานจากแสงแดด, ลม, น้า และลิเทียมแบตเตอร์รี่แทน

กระแสนี้ผลักดันให้เกิดการตกลงและร่วมมือกันทั่วโลกในข้อตกลงปารีส ( Paris Protocal ) ในปี 2015 และนำพาให้สู่กระแสการซื้อ Carbon Credit และพยายามที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่บรรยากาศโลกให้เป็นศูนย์ภายในอีก 25 ปี จากนี้เป็นต้นไป

องค์กร หรือธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากกระแสนี้ก็คือ Tesla, และบริษัทที่สร้างพลังงานจากแสงแดด, ลม และน้า เป็นต้น

องค์กร หรือธุรกิจที่จะสูญพันธุ์ในอนาคตคือ บริษัทที่พึ่งพิงพลังงานจาก Fossil Fuel เช่นน้ามัน, ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น

เนื่องจากกระแสข้างต้นนี้ ผู้โพสต์ไม่มีความเชี่ยวชาญ ผู้โพสต์จึงมุ่งเน้นไปยังกระแสที่ 2 โดยเฉพาะการลงทุนใน LUNC และ Bitcoin ดังนี้คือ :

2) กระแส Blockchain Technology : กระแสนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2008 – 2009 เมื่อ Satoshi Nakamoto คิดค้นระบบ Blockchain Technology และ Bitcoin ขึ้นมาโดยมีแนวความคิดที่จะขจัดตัวกลางที่เป็นเหลือบกินหัวคิวจากประชาชนพลเมืองของโลก เหลือบกินหัวคิวในที่นี้หมายถึง :

2.1) ธนาคารกลาง ที่ทำงานแบบมีวาระซ้อนเร้นและผลประโยชน์เฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น

2.2) รัฐบาล ที่โกงกินภาษีจากประชาชน

2.3) ธนาคารพานิชย์ ที่เป็นเสือนอนกิน

2.4) Web 2.0 อันได้แก่ Servers ของ Apple, Microsoft, Amazon, Google และ Facebook ที่นำข้อมูลของประชาชนพลเมืองโลกมาหาผลประโยชน์ส่วนตน เป็นต้น

Blockchain Technology นี้ Run อยู่บน Web 3.0 ซึ่งเป็นระบบไม่ผ่านตัวกลาง สามารถติดต่อกันในระบบ Peers to Peers ผ่าน Nodes ของระบบ Blockchain Technology 

องค์กร หรือธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากกระแสนี้ก็คือ Cryptocurrency, Investment Token, Utility Token, GameFi, DeFi, NFT, AR, VR และ Metaverse

องค์กร หรือธุรกิจที่จะสูญพันธุ์ในอนาคตคือ ธนาคารกลาง, รัฐบาล, ธนาคารพานิชย์ และ Web 2.0 อันได้แก่ Apple, Microsoft, Amazon, Google และ Facebook เป็นต้น

หมายเหตุ : 1) ต้นทุนอ้างอิงในการถือ LUNC และ Bitcoin ของผู้โพสต์และเพจคือ :
1.1) LUNC = 0.000017 USD เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ปี 2022
1.2) Bitcoin = 17,708.62 USD เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ปี 2022
และคาดว่าจะถือยาวเนื่องจากต่อไปคริปโตฯน่าจะอยู่ในสภาวะตลาดกระทิงหลังจากเผชิญตลาดหมีมาแล้ว 10 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2021 ( มูลค่าทางการตลาด 3 ล้านล้าน USD ) มาถึงเดือนกันยายน ปี 2022 ( มูลค่าทางการตลาด 1 ล้านล้าน USD )

โปรดติดตามรายละเอียดได้ในลิ้งค์เพจด้านล่าง :

https://www.facebook.com/luncvsbitcoin


กองแก้ว