ปรับพอร์ตยังไง ให้อยู่รอดยามวิกฤติ

1. หลักการแรกเขียนให้อ่านกันบ่อย ๆ คือ “Savings” ก่อนจะแบ่งเงินมาลงทุน คุณต้องมี “เงิน” ให้เพียงพอต่อการใช้ชีวิตได้อย่างน้อย 6 เดือนก่อน หลังจากนั้นค่อยทยอยแบ่งมาลงทุน
2. การลงทุนก็อย่า “เหมารวม” ตามที่เขียนไว้บ่อย ๆ ในเรื่อง MM ต้องแบ่งกองหน้า (เอาไว้หาสภาพคล่อง) กองกลาง (เอาไว้ทำเงินเล่นรอบ) และกองหลัง (เอาไว้เลี้ยงห่านให้มันออกไข่) และผู้รักษาประตู (สิ่งพึ่งพิงสุดท้ายของชีวิต)
3. หลักการที่สำคัญคือ “Diversify” กระจายสินทรัพย์ต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะบางช่วงตัวนี้ขึ้น บางช่วงตัวนี้ลง ดังนั้น เราไม่ได้มีแต่หุ้นอย่างเดียว และส่วนหุ้นก็ไม่ได้มีแต่หุ้นไทยอย่างเดียว ทำแบบนี้เราจะ “ไปได้เรื่อย ๆ” ยามตลาดขาลงเราก็อยู่รอด ตลาดขาขึ้นเราก็เกาะล้อไปด้วย แต่ใครที่เอาเงิน 100 % ลงทุนในสินทรัพย์เดียว พอวันหนึ่งมัน crash จะเอาตัวรอดยาก
4. “สภาพคล่อง” สำคัญที่สุด ไม่ใช่เอาเงินมาลงทุนทั้งหมด สมมุติง่าย ๆ จะแบ่งมาซื้อหุ้นสักล้านนึง ซื้อจริงๆ แค่ 7 แสนก็พอ อีก 3 แสนเอาไว้เผื่อถัว เผื่อแก้ดอย เผื่ออัดเพิ่มตอนถึงเวลาของมัน
5. “เรารู้ตัวดีที่สุดว่าเราซื้อหุ้นนั้นเพราะอะไร” เช่น เราซื้อหุ้นนี้เพราะเอาปันผล มันจ่ายปันผล 5% ต่อปี ต่อให้เราไม่ทำอะไรกับมันเลย ทิ้งไว้ 10 ปี ก็ได้มาครึ่งนึงของที่เราลงไว้แล้ว ช่วงไหนหุ้นตกหนัก ๆ เราก็ต้อง “ซื้อ” เพราะเราจะได้ปันผลมากขึ้น ไม่ใช่ไปไล่ซื้อตอนที่ราคามันสูง ๆ
6. เช่น เราซื้อหุ้นตัวนี้เพราะหวังว่าในอนาคตมัน growth แน่นอนกิจการมันก็มีขึ้นมีลง ตลาดก็มีขึ้นมีลง ปีนี้ดี ปีหน้าไม่ดี แต่โดยรวมๆ แล้ว growth 20% ต่อปี ก็ถือมันไปสิ
7. เช่น เราซื้อหุ้นตัวนี้เพราะหวัง “เก็งกำไร” ไม่ต้องไปถามใครว่าหลุด CUT LOSS แล้วใช่ไหม ถ้าตีเป็นเส้นมีชัด ๆ หลุดคือหลุด CUT LOSS คือวินัย ไม่มีข้อต่อรอง หลุดก็ต้องออกตามวินัย กลับมายืนได้ก็เข้าไปใหม่
8. “ถือหุ้นบริษัทที่เรารัก” ก่อนจะซื้อหุ้นอย่าดูแต่ชื่อ อย่าดูแต่กราฟ ไปศึกษาก่อนว่าเขาทำธุรกิจอะไร อนาคตมี story ยังไง งบการเงินเป็นยังไง ถ้าเรา “เลือก” มันแล้ว ไม่ว่าตลาดจะตก มันจะย่อลึกอาจหลุดฐานนิดหน่อย เราก็จะมีความมั่นใจ
9. จากข้อ 8 แม้กระทั่งหลุดฐานมาเลย แต่ไม่อยาก CUT LOSS แต่ดูแล้ว “พื้นฐานกิจการไม่เปลี่ยน” กำไรในอนาคตน่าจะโตต่อเนื่อง เรามีสภาพคล่องไม่ร้อนเงิน มั่นใจว่าเลือกดีแล้วยังไงก็มีโอกาสกลับมาแน่ แบบนี้เราก็ “รอคอย” ต่อไป สุดท้ายวันหนึ่งมันก็ต้องกลับมา
10. อย่าลืมว่า ตลาดมันลงมันไม่มีวันลงอย่างเดียวไปตลอดทั้งชีวิต ตลาดมันมีรอบของมัน สำคัญเราอยู่ได้ในแต่ละรอบหรือเปล่า การลงแต่ละครั้งถ้าเจอ BOTTOM มันคือการขึ้นรอบใหม่ ถ้าวางแผนการเงินดี ๆ วางแผนการลงทุนดี ๆ ตามที่เขียนไว้ เราก็จะไม่เดินจากตลาดไปก่อนวันอันควร
อย่าประมาทตลาดเด็ดขาด ตลาดไม่เคยง่าย
และ ตลาดน่ะมันวน ๆ อยู่ในรูปแบบเดิม
แต่เราต่างหาก ที่เดินออกจากตลาดไป แล้วรอบใหม่ก็จะมีหน้าใหม่เข้ามา
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก..