โตช้า = ถอยหลัง ไทยกำลังกลายเป็น “ประเทศโตน้อย” ที่สุดในอาเซียน
ในโลกที่เศรษกิจหมุนเร็ว “โตน้อย” ไม่ใช่แค่ปัญหา
แต่มันคือสัญญาณอันตรายว่าเรากำลังตกขบวน
สองทศวรรษที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยโตต่ำสุดในกลุ่ม ASEAN-6
ทั้งขนาดเศรษฐกิจและอัตราการขยายตัว
และสิ่งที่น่ากังวลกว่านั้นคือ เราเริ่มติดกับดักของตัวเองมากขึ้นทุกปี

ASEAN-6 โตแรง แต่ไทยไม่ไปไหน
ระหว่างปี 2005–2024
GDP ของ ASEAN-6 โตเกือบ 3 เท่า
แต่ไทยโตรั้งท้ายเพียง 1.6 เท่า
ประเทศ | GDP (PPP) ปี 2005 (พันล้าน USD) | ปี 2024 (คาดการณ์) | โตกี่เท่า
เวียดนาม | 340 | 1,655 | 3.9 เท่า
ฟิลิปปินส์ | 350 | 1,366 | 2.9 เท่า
สิงคโปร์ | 234 | 910 | 2.9 เท่า
อินโดฯ | 1,202 | 4,663 | 2.9 เท่า
มาเลย์ | 391 | 1,377 | 2.5 เท่า
ไทย | 681 | 1,771 | 1.6 เท่า
แม้ไทยจะใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอาเซียน
แต่ถ้ายังโตระดับนี้ต่อไป—จะโดนเวียดนามแซงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ไทยโตช้า = รายได้ไม่ขยับ
• อัตราการเติบโตของ Real GDP เฉลี่ยไทย = 2.6% ต่อปี (ต่ำสุดใน ASEAN-6)
• รายได้ต่อหัวไทย = 7,400 ดอลลาร์ ติดอยู่กับที่มา 7 ปี
• ยังไม่หลุดกับดักรายได้ปานกลาง ในขณะที่มาเลเซียกำลังแตะระดับประเทศรายได้สูง
เกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจไทย?
เรากำลังติดอยู่ใน “กับดัก 4 ประการ” ที่ถ้าไม่เปลี่ยนเกม ก็ไม่มีวันไล่ทัน
แต่ละข้อไม่ใช่แค่ปัญหา—มันคือ รอยรั่วถาวรของการเติบโต
พึ่งพาภายนอกมากเกินไป: เครื่องยนต์ที่ไม่ใช่ของเรา
เศรษฐกิจไทยโตได้เมื่อโลกโต แต่ถ้าโลกชะลอ ไทยแทบไม่มีทางรอด
พึ่งท่องเที่ยว = โดนโควิดทีเดียว เศรษฐกิจแทบหยุดหายใจ
พึ่งส่งออก = โดนสงครามการค้าทีเดียว รายได้ทั้งประเทศร่วง
เมื่อโลกสะอึก เราเจ็บ เพราะเราไม่มี “เครื่องยนต์ภายใน” ที่โตได้ด้วยตัวเอง
ภาคการผลิตอ่อนแรง: จากเสือล้าสมัย สู่วาฬที่ว่ายไม่ทัน
อุตสาหกรรมหลักอย่างรถยนต์-อิเล็กทรอนิกส์ เริ่ม “ตามไม่ทันโลก”
อุตสาหกรรมที่เคยพาไทยโต กำลังกลายเป็นภาระ
รถยนต์: ไทยยังผลิตเครื่องยนต์สันดาปในวันที่โลกไป EV
อิเล็กทรอนิกส์: ไทยยังผลิตของเดิม ในวันที่เวียดนามผลิตชิป
ในโลกที่เปลี่ยนเร็ว “ล้าหลัง” ไม่ได้แปลว่าแค่ช้า แต่มันแปลว่า หลุดวงโคจร
รัฐไม่นิ่ง: นโยบายไม่ต่อเนื่อง
นักลงทุนกลัวความเสี่ยง แต่กลัวที่สุดคือ ความไม่แน่นอนจากรัฐ
เปลี่ยนรัฐบาล = เปลี่ยนนโยบาย = เสียความเชื่อมั่น = เงินไม่ไหลเข้า
ในขณะที่เวียดนามเดินหน้าแบบ “แผนเดียวทั้งชาติ”
ไทยยังถามกันอยู่ว่า “ปรับ ครม. เปลี่ยน รมต. จะยกเลิกนโยบายหรือเปล่า?”
ปัญหาเชิงโครงสร้างฝังลึก:โตไม่ได้เพราะถูกขังอยู่ในอดีต
นี่ไม่ใช่เรื่องแค่เศรษฐกิจ แต่คือระบบที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่ออนาคต
แรงงานลดลง ระบบไม่พร้อมรองรับสังคมสูงวัย
อุตสาหกรรมยังวนในกับดัก OEM ไม่มีนวัตกรรมของตัวเอง
การศึกษายังผลิตบัณฑิตที่ไม่ตรงกับสิ่งที่ตลาดต้องการ
เทคโนโลยียังไม่ทันโลก ทั้ง AI, automation, digital infra
โลกวิ่งไปข้างหน้า แต่โครงสร้างเราเหมือน “ล็อกอยู่ในปี 2005”
ไทยไม่ได้ขาดทรัพยากร...แต่ขาด “การเปลี่ยนแปลง”
ประเทศไทยยังมีทรัพยากรครบ
แต่ถ้าไม่เร่งเปลี่ยน—จะยิ่งถดถอยในโลกที่วิ่งเร็ว
ถึงเวลา “รีเซ็ตเครื่องยนต์”
• ปลดล็อกนโยบายให้ต่อเนื่องและชัดเจน
• ดันเศรษฐกิจภายในให้โตได้ด้วยตัวเอง
• ลงทุนในนวัตกรรมและทักษะแห่งอนาคต
• สร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่โลกต้องการ ไม่ใช่แค่ตามให้ทัน
ก่อนที่การเติบโตช้า จะกลายเป็น “ความปกติถาวร”
เพราะการโตน้อยในวันนี้ คือสัญญาณของ “ความล้าหลังถาวร” ในวันพรุ่งนี้
.
เรื่องและภาพ: สราลี วงษ์เงิน Economist, Bnomics
════════════════
ขอบคุณเนื้อหาทีมาจาก.. Bnomics by Bangkok Bank