หุ้น COTTO มาจากไหน ?

หุ้น COTTO มาจากไหน ?

เชื่อว่านักลงทุนหลายคน คงจะงงๆกับหุ้นตัวนี้ มาจากไหนและทำกระเบื้อง COTTO หรือเปล่า

--------------------------

ข้อมูลข่าวจาก Money Channel

หุ้น COTTO เข้าซื้อขายวันนี้(3 ส.ค.)วันแรก ในหมวดธุรกิจวัสดุก่อสร้าง หลังรับโอนทรัพย์สินของ TGCI ที่ควบรวม 4 บริษัทย่อย SCC เข้าด้วยกัน ด้านโบรกให้ราคาพื้นฐาน 5.4 บาท จากราคาเปิดตลาดเช้าอยู่ในช่วง 2.70-3.04 บาท

ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับหุ้นสามัญของบมจ.เอสซีจี เซรามิกส์ (COTTO) เข้าเริ่มซื้อขายในวันนี้ 3 สิงหาคม 2561 ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และหมวดธุรกิจวัสดุก่อสร้าง โดยในการซื้อขายวันนี้ไม่มีราคาสูงสุดและต่ำสุดเพื่อให้หุ้น COTTO สามารถซื้อขายได้ตามสภาพความเป็นจริง

COTTO มีจำนวนหุ้นชำระแล้ว 5,962,621,233 หุ้น และทุนชำระแล้ว ชำระแล้ว 5,962,621,233 บาท ในราคาพาร์ 1 บาทต่อหุ้น

COTTO ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิกปูพื้นและบุผนังเป็นธุรกิจหลัก ภายใต้เครื่องหมายการค้า COTTO, SOSUCO และ CAMPANA และธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมหนองแค

ตามที่บมจ.ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ (TGCI) และบริษัทย่อย 4 บริษัทของบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ได้แก่ (1) บจก.เซรามิคอุตสาหกรรมไทย (2) บจก.เดอะ สยาม เซรามิคกรุ๊ปอินดัสทรี่ส์ (3) บจก.โสสุโก้ แอนด์กรุ๊ป (2008) และ (4) บจก.เจมาโกได้ดำเนินการควบบริษัทและนายทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัดรับจดทะเบียนควบบริษัทแล้ว ส่งผลให้บริษัทดังกล่าวสิ้นสภาพจากการเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายและบมจ.เอสซีจี เซรามิกส์ (COTTO)จะรับโอนทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ หน้าที่และความรับผิดชอบทั้งหมดของบริษัทข้างต้น

คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงสั่งเพิกถอนหลักทรัพย์ของ TGCI จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและรับหลักทรัพย์ของ COTTO เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯตั้งแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนการควบบริษัทตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2561

== มาดูบทวิเคราะห์ ==

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส วิเคราะห์หุ้น COTTO ว่า ผลประกอบการครึ่งปีแรก 61 บริษัทมียอดขายกระเบื้องเซรามิค 6.0 พันล้านบาท ลดลง 10.5% จากปีก่อน เพราะอุปสงค์ที่อ่อนแอลง โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ และจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเมื่อเทียบปีก่อน

บริษัทมียอดขายในประเทศ 78% และส่งออก 22% โดยตลาดหลักอยู่ในกลุ่มอาเซียน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เป็นต้น

สำหรับรายได้จากนิคมอุตสาหกรรมในครึ่งปีแรก 61 มีเพียง 24 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้อื่นๆ จากค่าบริการสาธารณูปโภคในนิคมฯ ดอกเบี้ยรับ เงินปันผล กำไรจาก FX กำไรจากขายทรัพย์สิน และอื่นๆ 118 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 27% ลดลงจาก 1H60 ที่ 29% เพราะต้นทุนก๊าซและพลังงานสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายขาย&บริการต่อยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 26.5% จาก 26.1% ใน 1H60

สำหรับกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 61 เท่ากับ 55 ล้านบาท ลดลงมากจาก 164 ล้านบาทในครึ่งปีแรก 60

ด้านฐานะการเงิน บริษัทมีสินทรัพย์ ณ สิ้นมิ.ย.61 เท่ากับ 1.3 หมื่นล้านบาท และมี D/E ต่ำที่ 0.4 เท่า ส่วน Book Value เท่ากับ 1.5 บาท/หุ้น

ถ้าเปรียบเทียบกับ DCC - ณ สิ้นมี.ค.61 DCC มี BVS เท่ากับ 0.58 บาท/หุ้น ณ ราคาปัจจุบันของ DCC ที่ 2.08 บาท/หุ้น มี P/BV 3.6 เท่า ถ้าให้ P/BV ของ COTTO เท่ากับ DCC ที่ 3.6 เท่าจะได้มูลค่าหุ้น COTTO เท่ากับ 5.4 บาท/หุ้น