ห้องเม่าปีกเหล็ก

AOT - ขึ้นตัวเดียวแบบนี้ ไม่ค่อยปลื้ม

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
67 views

ที่มา : Wattana Stock Page

AOT - ขึ้นตัวเดียวแบบนี้ ไม่ค่อยปลื้ม / น้ำมัน มีความไม่แน่นอนกับรัสเซีย
28 พ.ย. 2560 / 12.55 น.

ดัชนีกลับมายืนเหนือระดับ 1700 จุดได้ แต่รู้สึกเหมือนไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่เลย เนื่องจากว่าหุ้นที่ทำดัชนีขึ้นมาเรียกได้ว่า หลักๆมีเพียงแค่ AOT ตัวเดียว ที่ราคาปรับขึ้นมาชน 61 บาท

ยิ่งถ้าไปดูมูลค่าการซื้อขายด้วยแล้วล่ะก็ แสดงถึงความผิดปกติอย่างชัดเจน เพราะเทรดกันไป 5.3 พันล้านบาทเพียงครึ่งวัน ในขณะที่หุ้นที่เทรดอันดับ 2 อย่าง CPALL เทรดแค่ 700 กว่าล้านบาท

เรียกได้ว่าการซื้อขายพุ่งเป้าไปที่ AOT เพียงตัวเดียว ทั้งๆที่ไม่ได้มีข่าวอะไรใหม่เลย

จะบอกว่าเล่นเกี่ยวกับตัวเลขนักท่องเที่ยว หรือปัจจัยอื่น มันก็เป็นปัจจัยที่รู้กันอยู่แล้ว คือต้องบอกว่า มันรู้สึกแปลกๆที่อยู่ๆก็มีปริมาณการซื้อขายเข้ามา ดูมันไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่นัก

คือไม่ได้บอกว่า AOT ไม่ดีนะครับ คือมันเป็นหุ้นที่ดี แต่การขึ้นแบบนี้มันแปลก มันผิดปกติ!!!

มีคนส่งมาว่า โบรกแห่งหนึ่งปรับเป้า AOT ขึ้นไป 70 บาท มันก็ไม่น่าจะเป็นเหตุผลให้ต้องรีบเข้าซื้อขนาดนั้น เพราะก่อนหน้านั้นก็มีโบรกที่ปรับ AOT ขึ้นไประดับ 70 อยู่แล้ว ไม่ใช่โบรกนี้เป็นโบรกแรก

คำถามจึงเกิดขึ้นว่า ทำไมต้องเล่นในวันนี้ และต้องเล่นกันมากขนาดนี้

เนื่องจากโดยปกติแล้ว หุ้นใหญ่มันจะไม่ได้มีมูลค่าการซื้อขายที่โดดกว่ากันสักเท่าไหร่ ยกเว้นจะมีปัจจัยบวกที่เข้ามา

เอ๊ะ หรือว่ามีอะไรที่นักลงทุนทั่วไปอย่างเราๆไม่รู้!!!

มาถึงประเด็นน้ำมัน

OPEC และผู้ผลิตนอกโอเปกอย่างรัสเซีย กำลังจะร่วมประชุมกันเพื่อพิจารณาขยายมาตรการการจำกัดกำลังการผลิตอยู่ที่ 1.8 ล้านบาเรลต่อวันออกไปจนถึงสิ้นปี 2018 จากที่กำหนดไว้เดิมที่สิ้นเดือน มี.ค. 2018

แต่ตอนนี้กลับมีความกังวลว่า รัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตหลักนอกโอเปคจะเอาอย่างไร หลังทางรัสเซียออกมาพูดว่า การควบคุม supply น้ำมันนี้ ส่งผลกระทบทางลบต่อรัสเซียมาก ก็แน่นอนล่ะ เพราะเศรษฐกิจของรัสเซียพึ่งพาภาคพลังงานเป็นหลัก

ถ้าหากรัสเซียไม่เอาด้วย ทาง OPEC ก็ไม่น่าจะยืดมาตรการดังกล่าวออก เพราะ OPEC บอกตลอดว่า ถ้าจะลดการผลิต จะต้องลดกันหมด ไม่ใช่ให้ OPEC ลดแต่ฝ่ายเดียว และปัจจุบันสัดส่วนการผลิตน้ำมันของ OPEC ก็ไม่ได้สูงเหมือนแต่ก่อน

ก็คงต้องวัดใจดูว่า รัสเซียจะตัดสินใจอย่างไร เพราะแม้ OPEC และรัสเซียยอมควบคุมกำลังการผลิตเอาไว้ แต่ในทางกลับกัน สหรัฐกลับขุดน้ำมันขึ้นมาขายเป็นว่าเล่น

เรียกได้ว่า กำลังการผลิตที่หายไปนั้น สหรัฐก็ผลิตออกมาทดแทนทั้งหมด กลายเป็นว่า สหรัฐสามารถส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น ในขณะที่ OPEC และรัสเซียต้องยอมตรึงกำลังการผลิต เพื่อให้ราคาน้ำมันทรงตัวต่อไปได้

ตลาดน้ำมันค่อนข้างมีความอ่อนไหว การที่ตัวเองตรึงกำลังการผลิต ก็อาจทำให้เสียส่วนแบ่งการตลาดได้ เพราะคนอื่นก็ยังผลิตมากขึ้น ไม่ใช่ความร่วมมือที่เกิดขึ้นกับทุกประเทศ

โดยโกลด์แมน แซคส์ ได้ออกมาบอกว่า ผลของการประชุมครั้งนี้ "มีความไม่แน่นอนมากกว่าปกติ" และให้น้ำหนักการปรับลงของราคาน้ำมันมากกว่า เพราะตลาดซึมซับเรื่องการต่ออายุการตรึงกำลังการผลิตออกไปถึงสิ้นปีแล้ว

หากการตรึงกำลังการผลิตไม่ถูกต่ออายุ คาดการณ์ว่า จะมีน้ำมันล้นออกมาในตลาดอีกถึงวันละ 2.4 ล้านบาเรล (เป็นส่วนของรัสเซีย 3 แสนบาเรลต่อวัน)

เรื่องน้ำมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และไม่สามารถใช้หลักการทางเศรษฐศาสตร์เข้ามาวิเคราะห์ได้แต่เพียงอย่างเดียว เพราะในภาวะ oversupply อย่างในปัจจุบัน ทุกคนย่อมรู้ว่า การลดกำลังการผลิตลงจะทำให้ราคาน้ำมันเข้าสู่จุดดุลยภาพ

แต่มันยากที่จะทำเช่นนั้น

เพราะทั้งกลุ่มประเทศ OPEC รวมถึงรัสเซีย ล้วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วยน้ำมันทั้งสิ้น การขายน้อยลง ทำให้รายได้เข้าประเทศน้อย ก็ย่อมส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างหนัก เพราะเงินที่จะนำไปใช้เป็นงบประมาณด้านต่างๆของประเทศย่อมลดลง นั่นเพราะสัดส่วนของน้ำมันต่อ GDP ของประเทศนั้นสูงมาก

ประเทศเหล่านี้ ถ้าเลือกได้ ก็ยอมที่จะให้ราคาน้ำมันต่ำลง แต่ว่าตัวเองยังขุดเจาะมาขายได้อย่างเต็มที่ เพราะของอย่างนี้มันใครดีใครได้ เราไม่ขาย คนอื่นก็ขายอยู่ดี ดีกว่าให้ราคาน้ำมันสูงขึ้นนิดหน่อย แต่ตัวเองขายไม่ได้ (ทั้งๆที่ก็แอบขายเกินโควตากันอยู่แล้ว) ในขณะที่คนอื่นขายเอ๊าขายเอา โดยเฉพาะสหรัฐ

ก็รอความชัดเจนกันหลังการประชุม


คนเล่นหุ้น