Good Morning News โดยกองทุนบัวหลวง, มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน
5 ตุลาคม 2559
.............................
ฐาปณัฐ สุภาโชค, Fund Management
Guru Quotes
“สิ่งที่ยิ่งใหญ่ในงานธุรกิจนั้น ไม่เคยถูกสร้างจากน้ำมือคนเพียงหนึ่งเดียว แต่จะเกิดจากหมู่คนที่ร่วมแรงร่วมใจกันต่างหาก”
Steve Jobs
General News
• นายฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีคลังแห่งอังกฤษ ชี้ว่า เศรษฐกิจของประเทศจะต้องเผชิญภาวะผันผวน ระหว่างกระบวนการถอนตัวจากสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการตอนสิ้นเดือน มี.ค.ของปีหน้า โดยต้องใช้เวลานาน 2 ปี หรืออาจมากกว่านั้น
• นางโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขาคลีฟแลนด์ ย้ำว่า Fed ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า (1-2 พ.ย.) หากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจต่างๆ แสดงผลตามที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่าจะเป็นการจัดประชุมเพื่อกำหนดนโยบายการเงินก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 8 พ.ย.เพียงไม่กี่วัน เนื่องจากการเมืองมิได้ส่งผลต่อการตัดสินใจของ Fed
• ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของประเทศในเดือน ก.ย.เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (49.4) เป็น 51.5 โดยดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งบอกว่าภาคการผลิตขยายตัว ซึ่งถือเป็นสัญญาณดีต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวม
• ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน และให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2-3%
• ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุว่า ฐานเงินของญี่ปุ่นปรับขึ้นจากปีก่อน 22% หรือเพิ่มขึ้นเป็น 412.84 ล้านล้านเยน นับว่าเป็นระดับสูงสุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น และยังเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 ตามการดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลายเพื่อผลักให้อัตราเงินเฟ้อเข้าเป้า 2% อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนทิศทางนโยบายมาให้ความสำคัญต่อเส้นอัตราผลตอบแทน (yield curve) อาจทำให้อัตราการขยายตัวของฐานเงินชะลอลงบ้าง
• ผลสำรวจภาคธุรกิจรายไตรมาสของ BOJ เผยว่า บริษัทญี่ปุ่นในเดือน ก.ย.ได้ประเมินราคาผู้บริโภคซึ่งเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ จะเพิ่มขึ้น 0.6% ในอีก 1 ปี ลดลงจากที่คาดไว้ในไตรมาสก่อนที่ 0.7% และยังลดลงเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกัน สะท้อนว่ามาตรการทางการเงินของ BOJ ในเวลานี้ ไม่สามารถทำให้ภาคธุรกิจเชื่อมั่นได้
• ธนาคารกลางเกาหลีไต้ (BOK) ระบุว่า หนี้สินภาคครัวเรือนเฉลี่ยสิ้นเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้นเป็น 72.06 ล้านวอน ซึ่งสูงขึ้นจากสิ้นปี 2012 ถึง 23.8% เนื่องด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจนต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.25% เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
• ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% จนเหลือ 6.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ยังอ่อนแอ ทั้งนี้ RBI ได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายนับตั้งแต่เดือน ม.ค.ของปีก่อน รวมแล้ว 1.75%
• นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เผยยอดส่งออกในเดือน ส.ค.อยู่ที่ 18,825 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวจากปีก่อน 6.5% แต่ยังประเมินว่ายอดส่งออกรวมทั้งปีจะหดตัวจากปีที่แล้ว 2% เนื่องจากปัจจัยกดดันภายนอก เช่น นโยบายการเงินของ Fed ที่ยังไม่ชัดเจน ราคาน้ำมันที่ผันผวน และเศรษฐกิจในหลายประเทศชะลอตัว เป็นต้น
Equity Market
• SET Index (4 ต.ค.) ปิดที่ 1,509.78 จุด เพิ่มขึ้น 18.84 จุด หรือ +1.26% มูลค่าซื้อขายรวม 53,456.75 ล้านบาท โดยดัชนีตลาดเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลต่อปัญหาดอยซ์แบงก์ เพราะผลการเจรจาขอลดค่าปรับต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ น่าจะออกมาดี นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยยังปรับขึ้นแรงกว่าตลาดในภูมิภาค เนื่องจากเก็งกันว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในครึ่งปีหลังจะค่อนข้างดี
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
นักลงทุนสถาบัน -1,433.49 ล้านบาท
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +342.35 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติ +766.80 ล้านบาท
นักลงทุนทั่วไป +324.35 ล้านบาท
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วง -0.02% ถึง +0.02% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 134,020.72 ล้านบาท ในวันนี้ไม่มีการประมูลพันธบัตร