ห้องเม่าปีกเหล็ก

PTTEP ต่างชาติเทขาย แต่โบรกฯ ไทยยังเชียร์ซื้อ!!

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
51 views

จับตา PTTEP หลัง NVDR เทหนัก กดราคาหุ้นนิวโลว์รอบ 2 เดือน ขณะที่โบรกฯ ไทยยังเชียร์ซื้อ คาดงบไตรมาส 2/62 แข็งแกร่ง และมีอัพไซด์จากกิจการ Murphy อีก 1-4 บาท/หุ้น

            หุ้น บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP เจอแรงขายหนักในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 พ.ค. 62) โดยราคาหุ้นปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 124 บาท ต่ำสุดรอบ 2 เดือน ก่อนปิดการซื้อขายที่ 124.50 บาท ลดลง 5.50 บาท หรือ 4.23% มูลค่าการซื้อขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ที่ 4,589 ล้านบาท สวนทางกับดัชนีฯ ที่ปรับขึ้น 4.33 จุด นอกจากนี้ยังมีปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้นเกินปกติกว่า 358% เทียบค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า จากที่เคยซื้อขายวันละ 10.27 ล้านหุ้น เพิ่มเป็น 36.81 ล้านหุ้น
            ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่าแรงขายหุ้น PTTEP ส่วนใหญ่เป็นของนักลงทุนต่างชาติ โดยขายผ่าน NVDR คิดเป็นมูลค่าสูงที่สุดกว่า 620 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 124.63 บาท หรือราว 5 ล้านหุ้น เป็นสัดส่วนเกือบครึ่งจากปริมาณขายทั้งหมดของหุ้น PTTEP เมื่อวันศุกร์ที่ 13.87 ล้านหุ้น
            ทั้งนี้ในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนพบการเทขายหุ้นในกลุ่ม PTT หลังจากราคาน้ำมันปรับลงแรง และบล.เครดิตสวิสฯ ปรับลดราคาเป้าหมายหุ้นหลายตัวในกลุ่ม PTT ลง
            PTTEP เป็นบริษัทในเครือบมจ.ปตท.(PTT)ประกอบธุรกิจด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ธุรกิจขนส่งก๊าซทางท่อในต่างประเทศ และการลงทุนในธุรกิจต่อเนื่อง ในปี 61 มีรายได้จากการขายน้ำมันดิบ 21.56% ก๊าซธรรมชาติ 56.51% ก๊าซแอลพีจี 0.58% คอนเดนเสท 16.53% รายได้ขนส่งท่อก๊าซ 1.97% และ อื่นๆ 2.85%
            ผลการดำเนินงาน PTTEP พลิกขาดทุนสุทธิในปี 58 ที่  31,590 ล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบโลกทรุดหนัก ก่อนพลิกฟื้นเป็นกำไรได้ในปี 59 - 61 ที่ 12,859 ล้านบาท 20,579 ล้านบาท และ 36,206 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนไตรมาส 1/62 มีกำไรสุทธิ 12,479 ล้านบาท ลดลงราว 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ถือว่าดีกว่าที่ตลาดคาด
            ช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา PTTEP ประกาศทุ่ม 2,127 ล้านเหรียญฯ เข้าฮุบกิจการ Murphy Oil ในมาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมอยู่ถึง 5 โครงการ และมีปริมาณการขายสุทธิในปี 61 อยู่ที่ 4.8 หมื่นบาร์เรล/วัน ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีมุมมองเป็นบวกต่อดีลดังกล่าว
            สำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ไทยต่อหุ้น PTTEP พบว่าส่วนใหญ่แนะนำซื้อ โดยคาดงบไตรมาส 2/62 ยังแข็งแกร่ง และมีอัพไซด์จากกิจการ Murphy อีก 1-4 บาท/หุ้น ขณะที่มองราคาหุ้นยังไม่แพง
            บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุ  PTTEP ประกาศกำไรสุทธิ 1Q62 ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท (+41% QoQ, -7% YoY) ใกล้เคียงกับที่เราคาด ทั้งนี้ หากหักรายการพิเศษ กำไรปกติอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท (+28% QoQ, +23% YoY) ดีกว่าที่เรา และตลาดคาด 10%-20% สาเหตุจากปริมาณขายสูงกว่าคาด และค่าใช้จ่ายต่ำกว่าคาด ภาพรวมผลการดำเนินงานปกติถือว่าออกมาน่าประทับใจ โดยเติบโต +28% QoQ จากค่าใช้จ่ายภาษีโครงการลงทุนท่อขนส่งก๊าซซอติก้า และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลง ขณะที่เทียบกับ 1Q61 กำไรปกติเติบโต +23% YoY จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนถือหุ้นโครงการบงกช และราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากราคาก๊าซ สรุปสาระสำคัญดังนี้  1) ปริมาณขายที่ 319 KBOED ลดลง -1% QoQ จากการปิดซ่อมแซมโครงการบงกช แต่เพิ่มขึ้น +9% YoY ตามสัดส่วนถือหุ้นโครงการบงกช 2) ราคาขายเฉลี่ยที่ US$46.21/BOE ลดลง -3% QoQ จากราคาน้ำมัน แต่เติบโต +5% YoY จากราคาก๊าซที่เพิ่มขึ้น 14% 3) ต้นทุนต่อหน่วยที่ US$29.3/BOE ทรงตัว YoY แต่ลดลง -10% QoQ ตามการลดลงของค่าเสื่อมราคา, ค่าซ่อมบำรุง, และค่าใช้จ่ายบริหาร 4) กำไรจากรายการพิเศษรวม 0.6 พันล้านบาท จากผลสุทธิของประโยชน์ทางภาษีตามเงินบาทที่แข็งค่า, กำไรอัตราแลกเปลี่ยน, และขาดทุนอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยง กำไรปกติ 1Q62 คิดเป็น 28% ของคาดการณ์ทั้งปีเราที่ 4.2 หมื่นล้านบาท (+6% YoY)
            เราคาดแนวโน้ม 2Q62 กำไรปกติจะเติบโต YoY บนสมมติฐานปริมาณขาย และราคาขายที่เพิ่มขึ้น โดยเราคาดว่าราคาน้ำมันดิบ 1H62 จะยังแข็งแกร่งหนุนจากมาตรการลดการผลิตโอเปก และรัสเซียที่เป็นไปด้วยดี, ความไม่สงบในประเทศเวเนซุเอลา และลิเบีย, และสหรัฐฯ จะเข้มงวดต่อการคว่ำบาตรอิหร่านมากขึ้น นอกจากนี้ เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามประเด็นสำคัญใน 2Q62 ได้แก่ 1) การตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) โครงการโมซัมบิก ซึ่งจะเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่พิสูจน์แล้ว (P1) ราว 1 ปีจากปัจจุบัน 5 ปี 2) กรมสรรพกรอยู่ระหว่างอนุมัติหลักเกณฑ์ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมใหม่ (คาดภายในปี 2562) ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของกำไรสุทธิจากค่าเงินบาทในระยะยาว (ระยะสั้นจะเกิดการกลับรายการภาษีเงินได้รอตัดบัญชีราว 4.7 พันล้านบาท) 3) การปิดดีลซื้อกิจการ Murphy ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งคาดว่าช่วยเพิ่มมูลค่าหุ้น 1-4 บาท/หุ้น
            เราคงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2562 ที่ 138.00 บาท (ไม่รวม Upside จากกิจการ Murphy อีก 1-4 บาท/หุ้น) และคงคำแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" จาก 1) เรา และตลาดมีโอกาสปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น หลังงบ 1Q62 ออกมาดีกว่าคาด 2) ทิศทางราคาน้ำมัน 1H62 ยังเป็นขาขึ้น 3) ราคาหุ้น +20% YTD laggard ราคาน้ำมันที่ +37% และ 4) มีสตอรี่บวกจากแผนธุรกิจเชิงรุกตลอดทั้งปี เช่น ดีลซื้อกิจการ เร่งตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) โครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนา และโครงการต่อยอดธุรกิจก๊าซ
            บล. ทรีนีตี้ ยังคงแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 151 บาท ซึ่งเราประมาณราคาน้ำมันดิบตามสมมติฐานในปี 2019 ที่ 67 เหรียญต่อสหรัฐ เรามองว่าผลประกอบการของ 2Q19 น่าจะมีแนวโน้มดีกว่าใน 1Q19  จากราคาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยที่น่าจะสูงขึ้น ทั้งนี้ ปริมาณก๊าซรวมเพื่อจำหน่าย จะเริ่มสูงขึ้นเป็นลำดับจากระดับในขณะนี้ โดยเริ่มต้นในครึ่งปีหลัง จากการเพิ่มกำลังการผลิตเนื่องมาจากเริ่มต้นผนวกผลผลิตจากแหล่งก๊าซที่ซื้อกิจการจาก Murphy Oil
            บล.บัวหลวง คาดการณ์กำไรหลักเติบโตแข็งแกร่งในไตรมาส 2/62 คาดว่าจะหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น ในระยะยาว แนวโน้มการเติบโตของกำไรแข็งแกร่ง หนุนโดยการลงทุนต่อเนื่องและโอกาสการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม รวมทั้งอายุสำรองปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้น น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป นอกจากนั้นมูลค่าหุ้นยังคงไม่แพง โดยปัจจุบันซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2562 ที่เพียง 1.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของบริษัทที่ 2.2 เท่าอยู่ 0.9 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  

            เมื่อมุมมองของนักลงทุนต่างชาติกับนักวิเคราะห์ไทยต่อหุ้น PTTEP ไปกันคนละทาง จึงน่าจับตาว่าราคาหุ้นที่ร่วงลงมา จะเป็นโอกาสหรือความเสี่ยงในการลงทุน!!

คำแนะนำหุ้น PTTEP

โบรกเกอร์                       คำแนะนำ
ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี             "ถือ" ราคาเป้าหมาย 134.00 บาท
ยูโอบีเคย์เฮียน               "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 167.00 บาท
ฟินันเซีย ไซรัส               "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 160 บาท
เคทีบี (ประเทศไทย)                "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 139 บาท
ดีบีเอสวิคเคอร์ส                             "ซื้อ" ราคาพื้นฐาน 143 บาท
หยวนต้า(ประเทศไทย)                "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเหมาะสมที่ 138 บาท
ทรีนีตี้                      "ซื้อ" ราคาเป้าหมายที่ 151 บาท
บัวหลวง                                       "ซื้อ" เป้าหมายพื้นฐาน 157 บาท
ไอร่า                                           "ซื้อลงทุน" ราคาเป้าหมายปี 2562 เท่ากับ 142 บาท


คนเล่นหุ้น