ห้องเม่าปีกเหล็ก

จับตา ‘บจ.เล็ก’ ยกเลิกซื้อหุ้นคืน

โดย ปาฏิหาริย์
เผยแพร่ :
132 views

จับตา ‘บจ.เล็ก’ ยกเลิกซื้อหุ้นคืน โบรกชี้เก็บ ‘เงินสด’ รับมือ ‘แผ่นดินไหว-ภาษีทรัมป์’ สะเทือนศก.

By อัญชลี สบายสุข

 

จับตา ‘บจ.เล็ก’ ยกเลิกซื้อหุ้นคืน โบรกชี้เก็บ ‘เงินสด’ รับมือ ‘แผ่นดินไหว-ภาษีทรัมป์’ สะเทือนเศรษฐกิจ ด้าน “บจ.ใหญ่” ไร้ปัญหา เหตุกระแสเงินสดสูง มีโอกาส “ซื้อหุ้นคืนเพิ่ม” 

นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เริ่มเห็นหลาย ๆ บริษัทมีการประกาศ “ซื้อหุ้นคืน” หลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวลงไปลึก จากความผันผวนที่ผ่านมา แต่สารพัดปัจจัยลบอยู่เหนือการควบคุมพาเหรดเข้ามาต่อเนื่อง อย่าง แผ่นดินไหว และกำแพงภาษีของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่ไทยโดนเก็บในอัตรา 36% สูงกว่าทุกฝ่ายคาดการณ์ ดังนั้น ส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ที่เคยประกาศซื้อหุ้นคืน ต้องทบทวนใหม่ผ่านการ “ยกเลิก” ซื้อหุ้นคืน เพื่อรักษา “กระแสเงินสด” ไว้ยามที่จำเป็น

 

 

ล่าสุด บมจ. ธนาสิริ กรุ๊ป หรือ THANA รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมบอร์ด 1 เม.ย. 2568 พิจารณาถึงสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันมีความผันผวนและไม่แน่นอนสูง จึงได้มีมติให้ยกเลิกโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงินดังกล่าว เพื่อเตรียมกระแสเงินสดสำหรับรองรับความผันผวนจากสถานการณ์เศรษฐกิจในภาวะปัจจุบัน

นายกรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์การลงทุน บล. ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า จากความไม่แน่นอนที่ไม่คาดคิดจะเกิดจากเหตุแผ่นดินไหว หรือนโยบายภาษีทรัมป์ที่สูงกว่าที่คิด เชื่อบริษัทที่เคยประกาศซื้อหุันคืนก่อนหน้า และได้ออกมาประกาศยกเลิกซื้อหุ้นคืน เพื่อต้องการรักษาเงินสด เพื่อให้บริหารเรื่องของเงินสดได้

ทั้งนี้ เมื่อทรัมป์ขึ้นภาษีที่สูง หรือหากสมมุติเกิดแผ่นดินไหวซ้ำขึ้นมาอีก จนนำไปสู่การหยุดชะงักเศรษฐกิจ กระทบต่อส่งออก ดังนั้น จึงวางแผนยกเลิกซื้อหุ้นคืนได้ เพราะรักษากำไรไม่ให้ลดลง ฉะนั้น บริษัทใดที่มีเงินสดไม่มาก อาจจะกลับมาทบทวนอีกครั้ง และยังไม่ทำการซื้อหุ้นคืนในขณะนี้ เพราะการซื้อหุ้นคืนต้องใช้เงินสดของบริษัทเข้ามาซื้อ เป็นการบริหารเงินสด ฉะนั้นภาพตรงนี้สอดคล้องกัน

“ส่วนใหญ่หุุ้นที่มีการประกาศยกเลิกซื้อหุ้นคืนจะเป็นหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็ก เพราะดอกเบี้ยหุ้นกู้บริษัทขนาดกลางและเล็กจะสูงขึ้นไปอีก และแบงก์ที่ปล่อยสินเชื่อยาก และเมื่อประสบกับเรื่องดังกล่าวก็จะยิ่งมีความรัดกุมมากขึ้นไปอีก”

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลว่า ช่วงที่ผ่านมาการปรับตัวลดลงหุ้นไทยตั้งแต่ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนมากว่า 60% ซื้อขายด้วยราคาระดับที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี ฉะนั้น ในมิติที่ 1 มีโอกาสที่ราคาหุ้น ณ ปัจจุบันอาจจะต่ำเกินไปในมุมมองผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน

ขณะเดียวกัน ผลประกอบการที่ยังมีความไม่แน่นอน หรืออาจจะมีการชะลอตัวลงในหุ้นหลาย ๆ ตัว แต่เมื่อเข้าไปดูกระแสเงินสดอิสระที่เหลือใช้สูงถึงประมาณ 10-20% ของมาร์เก็ตแคป นั่นแปลว่า หากหักออกไปจ่ายปันผล 5% ยังเหลือประมาณ 5-15% จะสามารถนำไปใช้ได้ หากบริษัทดังกล่าวไม่ได้มีหนี้ ไม่มีภาระด้านลงทุนโอกาสที่จะนำเงินส่วนนี้เพื่อเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับผู้ถือหุ้น ทำให้บางบริษัทมีการประกาศซื้อหุ้นคืน

ล่าสุด เริ่มมีบางบริษัทที่ประกาศซื้อหุ้นคืน และได้ยกเลิกซื้อหุ้นคืน นั่นแปลว่า บริษัทไม่ได้มีปัญหา แต่ปัจจุบันเริ่มมีความไม่แน่นอน หรือความกังวล แต่ต้องให้เครดิตบริษัทเหล่านี้ ที่มีการตัดสินใจในการประกาศยกเลิกออกมาแน่นอนอาจจะมีหลายคนสงสัยมีปัญหาหรือไม่ แต่เพียงไม่กี่วันที่ประกาศซื้อหุ้นคืนและยกเลิกการซื้อหุ้นคืน จากนโยบายโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงไป จึงมองผลกระทบในวันข้างหน้าฉะนั้น เมื่อยกเลิกโครงการนี้ไปก่อน และจึงค่อยตัดสินใจกลับมาโครงการซื้อหุ้นคืนอีกครั้ง 

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บล.กสิกรไทย ให้ข้อมูลว่า การประกาศยกเลิกซื้อหุ้นคืนถือว่ามีน้อยมาก ถ้านับกับปริมาณที่ประกาศซื้อหุ้นคืน อย่างปีนี้มีการซื้อหุ้นคืนกว่า 4 หมื่นล้านบาท ดังนั้น การประกาศยกเลิกซื้อหุ้นคืน เป็นเพียงบางบริษัท ซึ่งปัจจุบันกระแสเงินสดบริษัทคิดเป็นประมาณ 5 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 10-11% และประเมินต่อจากนี้บริษัทที่ประกาศซื้อหุ้นคืนค่อนข้างมากขึ้นด้วย และคาดจะมีอีกประมาณ 60 กว่าบริษัทที่ประกาศซื้อหุ้นคืน

ทั้งนี้ มีการวิเคราะห์อยู่ที่ 150 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุุ้นใหญ่เกือบทั้งหมด เพราะฉะนั้น เทรนด์ยังคงเป็นการเข้าซื้อหุ้นคืน และในตลาดเอ็มเอไอ ในครึ่งปีหลังจะมีหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดโรลโอเวอร์ โดยเฉพาะกลุ่มไฟแนนซ์และอสังหาฯ ซึ่ง 2 เซกเตอร์นี้ใช้หุ้นกู้ประมาณ 40-50% ทำให้เกิดความเสี่ยงได้ ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่ อย่าง MTC TIDLOR SAWAD AP SIRI SPALI ค่อนข้างจำกัด ดังนั้นมองการที่จะมีการยกเลิกซื้อหุ้นคืนอาจจะเกิดขึ้นในหุ้นกลาง หุ้นเล็ก แต่หุ้นใหญ่ยังเป็นเทรนด์ของการซื้อหุ้นคืนอยู่

 

ข้อมูลข่าวจาก : https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1176361

 


ปาฏิหาริย์