ห้องเม่าปีกเหล็ก

เทียบฟอร์ม KTC – AEONTS

โดย DAVINCI
เผยแพร่ :
313 views

เทียบฟอร์ม KTC – AEONTS

2 หุ้นบัตรเครดิต ใครจะเติบโตมากกว่ากัน?

.

กำลังซื้อของผู้บริโภคค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการที่ต้องพึ่งพิงกำลังภายในประเทศ ซึ่งธุรกิจบัตรเครดิต เป็นอีกธุรกิจที่ผลประกอบการเติบโตสอดคล้องไปกับกำลังซื้อของผู้บริโภค เพราะเมื่อกำลังซื้อขยายตัว ผู้บริโภคมีการจับจ่ายใช้สอยต่อเนื่อง การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตน่าจะเติบโตตามไปด้วย ในทางกลับกันหากกำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัว ความต้องการใช้จ่ายบัตรผ่านก็จะปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน

.

Wealthy Thai จึงนำข้อมูลของ 2 หุ้นบัตรเครดิตอย่าง KTC และ AEONTS มาเทียบให้นักลงทุนดูว่า ในปี 2566 ซึ่งเป็นปีแห่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ผลการดำเนินงานของใครจะเติบโตมากกว่ากัน

.

สำหรับ KTC หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หุ้นบัตรเครดิตสุดฮอตของใครหลายคน โดยนักวิเคราะห์จาก บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า บริษัทตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อ ปี 2566 โต 15% แบ่งเป็น

.

1.ธุรกิจบัตรเครดิต คาดโต 10% จากมาตรการช็อปดีมีคืนที่มีวงเงินสูงขึ้นจากปีก่อน นอกจากนี้บริษัทจะโฟกัสลูกค้ากลุ่มรายได้สูงมากขึ้น เช่นการเพิ่มสิทธิพิเศษต่างๆ และโปรโมชั่นที่สอดรับกับ Life Style ของลูกค้า เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย

.

2.ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล คาดโต 7% จากการเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ ของพันธมิตรมากขึ้น

 3. สินเชื่อในกลุ่ม KTC พี่เบิ้ม คาดมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่ 9,000 ล้านบาท เร่งตัวขึ้นมากจากปี 2565 ที่ 1,055 ล้านบาท หลังปรับปรุงระบบการพิจารณาสินเชื่อให้คล่องตัวมากขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารในการแข่งขัน ขณะที่ในแง่ของช่องทางปล่อยสินเชื่อปัจจุบันสามารถขอสินเชื่อ KTC พี่เบิ้มผ่านสาขาของ KTB ได้เกือบทุกสาขาแล้ว รวมถึงมีบริการประเมินสินเชื่อแบบ Delivery เพื่ออานวยความสะดวกให้กับลูกค้า

.

และ 4. ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ ซึ่ง KTBL เริ่มกลับมารุกขยายธุรกิจเช่าซื้อ โดยจะเน้นกลุ่มเช่าซื้อรถยนต์มือสองเป็นหลัก เพราะให้ผลตอบแทนสูงคุ้มกับความเสี่ยง ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 3,000 ล้านบาท ในปีนี้

.

ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์ยังคงคาดทั้งปี 2566 KTC จะมีกำไรสุทธิ 7,942 ล้านบาท โต 12.2% จากปีก่อน แม้คาดการตั้งสำรองทรงตัวจากปีก่อน แต่จะถูกชดเชยด้วยการเร่งขยายพอร์ตสินเชื่อ ทั้งในส่วนของธุรกิจสินเชื่อเพื่อการบริโภคที่ได้อานิสงค์บวกจากมาตรการ “ช็อปดีมีคืน” ในช่วงต้นปี และเริ่มเห็นการใช้จ่ายในหมวดท่องเที่ยวและการเดินทางฟื้นตัวขึ้น

.

รวมถึงสินเชื่อจำนำทะเบียนในกลุ่ม “พี่เบิ้ม” ที่ผ่านการปรับปรุงการให้บริการที่คล่องตัวมากขึ้นแล้ว อีกทั้งมีสาขาและพนักงานของ KTB เป็นช่องทางในการติดต่อลูกค้า ทำให้คาดปีนี้จะเริ่มเห็นทิศทางการขยายตัวที่ดีขึ้น

.

สำหรับส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) คาดปรับลงเล็กน้อยเหลือ 15.2% จาก 15.3% ในปี 2565 จากต้นทุนทางการเงินที่ขยับขึ้น ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐานที่ 68 บาท

.

AEONTS ผลงานฟื้นตั้งแต่ไตรมาส 1/66ส่วน AEONTS หรือ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) นักวิเคราะห์ค่ายเดียวกัน ระบุว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/65 (เดือนธ.ค. 65 - ก.พ. 66) ที่ 693 ล้านบาท ลดลง 23.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 37.2% จากไตรมาสก่อนหน้า แย่กว่าประมาณการเดิมของฝ่ายวิเคราะห์ จากการตั้งสำรองที่ยังทรงตัวสูงและต้นทุนทางการเงินที่เร่งตัวขึ้น

.

ดังนั้นจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิของ AEONTS ในปี 2565-2566 ลงเฉลี่ยปีละ 7% มาอยู่ที่ 3,816 ล้านบาท และ 4,710 ล้านบาท ตามลำดับ เพื่อสะท้อนปัจจัยลบดังกล่าว ซึ่งภายใต้ประมาณการใหม่คาดจะเริ่มเห็นผลดำเนินงานฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 1/66 (เดือนมี.ค. - พ.ค. 66) หลังผ่านไตรมาส 4/65 ที่เป็นจุดต่ำสุดของปี 2565

.

โดยมีปัจจัยหนุนจากการตั้งสำรองที่คาดจะเริ่มผ่อนคลายลง หลังความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้รายได้น้อยที่เริ่มได้อานิสงค์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับบริษัทได้เร่งตั้งสำรองจำนวนมากไปแล้วในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้ระดับ Coverage Ratio แข็งแรงขึ้น จึงคาด Credit Cost จะเริ่มเป็นขาลงตั้งแต่ไตรมาส 1/66

.

นอกจากนี้คาดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น จะช่วยหนุนการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและความต้องการสินเชื่อส่วนบุคคล สำหรับรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยคาดจะปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน จากรายได้หนี้สูญที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หนุนให้ฝ่ายวิเคราะห์คาด AEONTS จะมีกำไรสุทธิในปี 2566 จำนวน 4,710 ล้านบาท โต 23.4%

.

ขณะที่ประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 223 บาท และคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยเชิงกลยุทธ์คาดราคาหุ้นจะเริ่มกลับมามีSentiment เชิงบวกมากขึ้นหลังผ่านช่วงประกาศผลดำเนินงานไตรมาส 1/65 (วันที่ 11 เม.ย. 66) ไปแล้ว

 

 


DAVINCI