‘พิชญ์’ดอดเก็บหุ้น MONO ควัก 19.5 ล้านซื้อ 11 ล้านหุ้นโบรกมองครึ่งหลังธุรกิจเริ่มสดใส

พิชญ์ โพธารามิก ควัก 19.5 ล้านบาท ซื้อหุ้น MONO  11 ล้านหุ้น เฉลี่ยหุ้นละ 1.77 บาท โดยทยอยซื้อหุ้นในต้นทุนถูก หลังขายออกเมื่อปีที่แล้ว 100 ล้านหุ้น ที่หุ้นละ 4.05 บาท โบรกฯมองแนวโน้มธุรกิจจะเริ่มสดใสครึ่งหลังของปีนี้

จากข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)  พบว่าในช่วง 1 เดือน (15 พฤษภาคม- 4 มิถุนายน  2562) นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของบริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (MONO) ได้เข้าซื้อหุ้น MONO  4 ครั้ง เป็นจำนวนหุ้นรวม 11 ล้านหุ้น (สัดส่วน 0.562%)  เป็นเงินรวม 19.51 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 1.77 บาท(ราคาปิด ณ วันที่ 6 มิถุนายนอยู่ที่ 1.76 บาท) ส่งผลให้การถือหุ้นของพิชญ์ เพิ่มเป็น  2,231,361,991 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 64.85% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ในปี 2561  พิชญ์ ได้ขายหุ้น MONO เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2561 จำนวน 100 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 4.05 บาท เป็นเงินรวม 405 ล้านบาท ก่อนที่จะทยอยซื้อกลับมาในราคาต้นทุนตํ่า กล่าวคือเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 ซื้อ  1 ล้านหุ้น หุ้นละ 3.14 บาท เป็นเงิน 3.14 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 ซื้อจำนวน 2 ล้านหุ้น หุ้นละ 3.10 บาท เป็นเงินรวม 6.20 ล้านบาท

ดังนั้นตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบัน พิชญ์ซื้อหุ้น MONO รวม แล้ว 14 ล้านหุ้น เฉลี่ยต้นทุนหุ้นละ 2.06 บาท ในราคาตํ่ากว่าเมื่อเทียบกับที่จำนวนหุ้นที่พิชญ์ขายออกไป 100 ล้านหุ้น ที่ต้นทุนหุ้นละ 4.05 บาท    

ผลประกอบการ MONO ไตรมาส 1/2562 ขาดทุน 112.36 ล้านบาท  โดยขาดทุนลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2561 ที่มีผลขาดทุน 156 ล้านบาท  แต่ขาดทุนแย่ลงเมื่อเทียบไตรมาส 1/2561 ที่มีกำไรสุทธิ 19 ล้านบาท  

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ทิสโก้ฯ คาดผลประกอบการไตรมาส 2 ของ MONO จะเพิ่มขึ้นเนื่องจากช่วงไฮซีซันคาดรายได้ค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นจากการปรับอัตราค่าโฆษณาช่วง prime time เพิ่มขึ้น 50% อัตราค่าโฆษณาเฉลี่ย 40,000 บาทต่อนาที อัตราการใช้สื่อที่ 91% (18 ชม.) นอกจากนี้ในไตรมาส 2 จะมีบันทึกกำไรจากรายการพิเศษจากมาตรการของกสทช.ที่่ลดค่าไลเซนส์งวดที่ 5-6 สำหรับค่าโครงข่ายจะเริ่มลดลงในครึ่่งหลังปี 2563 

บล.ทิสโก้ฯยังคงแนะนำ “ขาย” จากธุรกิจหลักทีวีดิจิทัลที่มีการแข่งขันทั้งด้านคอนเทนต์และราคารุนแรง ในขณะที่ต้นทุนยังสูงจากการลงทุนคอนเทนต์ใหม่ๆ ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 1.60 บาท

ขอบคุณที่มาเนื้อหา่ข้อมูลจาก