ห้องเม่าปีกเหล็ก

ข้อแนะนำเบื้องต้นสำหรับ คนต้องการสร้างเนื้อสร้างตัวจากตลาดหุ้นในช่วงนี้

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
71 views

บทความดีๆจากคุณฮง สถาพร งามเรืองพงศ์

-------------------------------------------------------------

ข้อแนะนำเบื้องต้นสำหรับ คนต้องการสร้างเนื้อสร้างตัวจากตลาดหุ้นในช่วงนี้

ก่อนอื่นออกตัวก่อนว่าบทความนี้เขียนให้กลุ่มคนอ่านที่เป็นคนกลุ่มที่สนใจการลงทุนในตลาดหุ้นหรือมือใหม่ ไม่ใช่กลุ่มที่วิเคราะห์หุ้นเก่งอยู่แล้ว

พอดีช่วงนี้ผมมีเพื่อนที่สนใจการลงทุนในหุ้นมาขอคำแนะนำ เขาอายุประมาณ 34 ปี เพื่อนผมเพิ่งมีลูกเขาอยากมีเวลาอยากกับลูกมากขึ้น มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น และอยากทำงานน้อยลงเพราะที่ผ่านมาทำงานหนักมาก ผมคิดว่าคำแนะนำที่ผมคุยกับเพื่อนอาจจะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนมือใหม่คนอื่นๆเช่นกันเลยมาลงให้อ่านนะครับ

สิ่งที่ผมแนะนำเขาเบื้องต้นคือ
(ขอเขียนแบบภาษาที่คุยกับเพื่อนจริงๆเลยล่ะกันนะ อาจมีภาษาพ่อขุนรามถ้าไม่ถูกใจขออภัยล่วงหน้า)
มึงอย่าไปมองอะไรสั้นๆ อย่าไปสนใจมากว่าตลาดหุ้นอีก 6 เดือนข้างหน้าจะเป็นยังไง หลังจากหุ้นเพิ่งเกิดวิกฤติมึงควรมองไปเลยว่าจะลงทุนยาวๆ ตอนเกิดซัพไพล์มรอบก่อนกูทำการบ้านหุ้นหนักมากและกูลงทุนเกือบจะตลอดเวลาหลังวิกฤติ มีแค่ช่วงสั้นๆที่ถือเงินสดทั้งพอต และทุกครั้งที่ทำแบบนั้นมักจะต้องซื้อแพงขึ้นแทบทุกครั้ง ถ้าตอนนั้นไม่นั่งเก็งตลาดทุกวันนี้กูจะพอตใหญ่กว่านี้

เหตุผลที่มึงไม่ควรสนใจว่าตลาดจะเป็นไงอีก 6 เดือนมากเพราะจริงๆแล้วมันไม่มีใครรู้ การลงทุนโดยคิดว่าในอีกหลายปีข้างหน้าธุรกิจอะไรจะมีมูลค่ามากกว่าทุกวันนี้เข้าท่ากว่า

มึงถามกูว่าหุ้นจะลงไปต่ำกว่าตอนเดือนมีนาไหม กูก็ไม่รู้ แต่มึงจะกลัวทำไมมึงมีรายได้ประจำทุกเดือน ถ้าลงมึงก็เอาเงินเดือนมาซื้อเพิ่มสิ ได้ถูกลงไม่ดีเหรอ ตัวที่ซื้อก็ได้ปันผลเป็น % เพิ่มขึ้น ตอนสมัยปี 2008 กูจำได้เลยตอนนั้นดัชนีแถว 390-400 กูไปฟังนักเทคนิคคนนึงบอกว่าหุ้นจะลงไป 270 กูไปฟังที่ตลาดหลักทรัพย์เนี้ยแหละชั้นสาม ห้องประชุมใหญ่เลย แล้วหุ้นมันก็เป็นขาขึ้นเป็นสิบปีไปไฮ 1850 ดีนะกูไม่เชื่อไม่งั้นทุกวันนี้กูไม่รู้จะเป็นยังไง ชาตินี้คงไม่ได้ซื้อหุ้นแล้ว กูไม่ได้บอกว่าหุ้นจะเป็นขาขึ้น กูบอกไม่ได้ว่าหุ้นจะมีนิวโลว์ไหม แต่กูบอกมึงได้ว่ากูทำยังไงถึงรวยหลังวิกฤติรอบก่อน และกูก็ไม่ได้ทำได้เพราะคาดทิศทางดัชนีได้ (ผมไม่ได้เขียนว่าคนใช้เทคนิค เพราะตอนนั้นก็มีนักเทคนิคบอกว่าจะเป็นขาขึ้นเหมือนกัน แต่จะสื่อว่าแนวทางของผมคือไม่เก็งดัชนีถ้าหุ้นถูกแล้วไม่หวังลมๆแล้งๆว่าจะซื้อได้ถูกกว่านี้อีกเพียงเพราะมีคนบอกว่าจะต่ำกว่านี้)

อย่าหวังรวยทันตาเห็น เป็นมือใหม่อย่าไปยุ่งกับ มาร์จิ้น บลอกเทรด คนที่หวังรวยแบบทันตามักจะเป็นคนที่หมดตัวอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่เลือกค่อยๆรวยแต่เลือกจนอย่างรวดเร็ว

ระยะเวลาในการคาดหวังการลงทุนคือ อีก 10 ปีข้างหน้าควรจะมีพอตใหญ่กว่าทุกวันนี้อย่างน้อยๆก็ 10-12 เท่า (ถ้ามึงขยันมากๆๆ) ถ้าตอนนี้มึงมีเงินระดับ 7 หลักก็ควรเกษียรได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า ตอนเกิดวิกฤติรอบที่แล้วกูก็ตั้งใจว่ากูขอรอบเดียวแล้วเกษียรได้เลย ตอนนั้นก็คาดหวังว่ากว่าจะพอตโตจริงจังคงใช้เวลาหลายปี มีแต่คนบ้าเท่านั้นที่ปลูกต้นไม้วันนี้แล้วหวังว่าพรุ่งนี้จะมีร่มเงาให้ ของทุกอย่างมีธรรมชาติเราปลูกต้นมะม่วงวันนี้กว่าจะได้กินก็ต้องรอ ขยันอ่านหนังสือวันนี้กว่าจะสบายได้อีกนาน นี้คือเหตุผลว่าถ้ามึงไม่ได้ลงทุนแค่หกเดือนหวังลงทุนเป็นสิบปี แล้วจะไปสนใจแนวโน้มแค่หกเดือนข้างหน้าทำไม สมมุติ 6 เดือนเก็งถูกว่าหุ้นขึ้นหรือลง แล้วยังไงต่อหยุดลงทุนเลยเหรอ ก็คงจะลงทุนต่อใช่ไหม แล้วก็ต้องมานั่งเก็งอีก 6 เดือนไปเรื่อยๆเหรอ กูไม่เคยเห็นคนเล่นหุ้นแบบนั้นมีพอตใหญ่ๆนะ เท่าที่อยู่ในตลาดหุ้นมา 16 ปี

สำหรับมือใหม่ กูแนะนำว่าตอนแรกอย่าเพิ่งไปหาข้อมูลหุ้น เพราะจะยังแยกแยะอะไรไม่ออก ให้อ่านหนังสือการลงทุนขั้นพื้นฐานก่อน ซึ่งหนังสือที่ควรอ่านเบื้องต้น ประมาณนี้
peter lych one up on wall street ,beating the street
intelligence investor,ดันโด,นิสัยการลงทุนของโซรอสบัฟเฟต

อย่าเพิ่งไปอ่านหนังสือตามท้องตลาดเรื่องหุ้น เพราะบางเล่มก็เขียนโดยคนที่แทบไม่มีประสบการณ์ลงทุนในตลาดหุ้น มโนบ้าง จินตนาการบ้าง อ่านของนักลงทุนระดับโลกก่อนเพราะเขาพิสูจน์ตัวเองมาแล้วว่าสำเร็จจริง ให้พอรู้ว่าแนวคิดที่ถูกต้องเป็นยังไง หลังจากนั้นจะไปอ่านหนังสืออะไรก็แล้วแต่

แม้เกิดวิกฤติก็ไม่ได้หมายความว่าหุ้นทุกตัวจะกลับมาได้ เหมือนเราจะเดิมพันม้าแข่ง สมมุติม้าทั้งคอกป่วย เราจะเลือกเดิมพันว่าพอม้าหายป่วย เราต้องเลือกตัวที่เคยมีประวัติการวิ่งที่ดี ตัวที่มันอ่อนแอถึงหายป่วยมันก็ยังเป็น loser อยู่ดี เลือกบริษัทที่เก่งไว้ก่อน และต้องเป็นบริษัทที่มีหนี้สินไม่มากเกินไป บางบริษัทดูงบแค่จะหาเงินไปจ่ายดอกเบี้ยก็เหนื่อยแล้ว ระวังบริษัทลักษณะนั้น

มึงชอบบอกว่ามึงไม่เก่งบัญชีแบบกู เลยไม่น่าจะลงทุนแบบกูได้ จริงๆแล้วกูไม่ใช่นักบัญชี เมื่อก่อนกูก็ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับบัญชี แต่กูจะไม่สร้างข้อจำกัดว่าตัวเองเก่งหรือไม่เก่งอะไร กูเชื่อว่ามนุษย์ทำได้ทุกอย่างถ้าตั้งใจจะทำ ตอนกูเริ่มต้นกูก็แค่คิดว่า วันนี้กูไม่เก่ง วันหน้ากูจะเก่งกว่าวันนี้ มึงเอาไฟล์เสียงไปฟัง แล้วไม่เข้าใจอะไรก็มาถามกู แล้วหยุดปรุงแต่งว่าตัวเองไม่เก่งอย่างโน่นอย่างนี้ กูฟังแล้วขัดหู

ทุกวันนี้มึงมีลูกแล้ว มึงต้องขยันเพื่อลูกนะเว้ย และมึงจะได้เลี้ยงดูครอบครัวได้

หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อนักลงทุนมือใหม่บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ ขออภัยอีกครั้งที่มี มึงๆกูๆ คือผมคุยกับเพื่อนแบบนี้จริงๆ ไม่ได้พูดเพราะๆ


คนเล่นหุ้น