ทำไม เงิน คือ สมการคณิตศาสตร์?
วันนี้ผมจะมาอธิบายให้ทุกท่านเข้าใจครับ
ก่อนอื่น ผมได้สร้าง Indicator ขึ้นมาเอง ชื่อว่า Candlestick Motion สามารถใช้กับทุกตลาดครับ
ตัวอย่าง กราฟ ทองคำ XAU/USD 2 รูป แสดงการใช้ Indicator ที่ผมสร้างขึ้น
ไม่ว่าตลาดไหนก็ตาม ไม่ว่าตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา Forex ราคาทองคำ ราคาน้ำมันดิบ หรือ หุ้น ใน SET Index สามารถใช้ Technical ที่ผมสร้างขึ้น
กราฟจะขึ้นจากจุด Bottom ไปหาจุด Top เสมอ และร่วงจากจุด Top ไปหาจุด Bottom เสมอ ทั้งภาพระยะสั้น และภาพระยะกลาง
เมื่อกราฟขึ้นจากจุด Bottom ไปหาจุด Top จุด Top จึงเป็นแนวต้าน Technical ฝั่งขาขึ้นเสมอ
เมื่อกราฟร่วงจากจุด Top ไปหาจุด Bottom จุด Bottom จึงเป็นแนวต้าน Technical ฝั่งขาลงเสมอ
จะ Follow Buy เมื่อกราฟ ทะลุแนวต้าน Technical แล้วกราฟแท่งเทียนเปิดและปิด เหนือแนวต้าน
จะ Follow Sell เมื่อกราฟหลุดแนวรับฝั่ง Buy หรือ ก็คือ แนวต้านฝั่ง Sell พูดง่ายๆ หลุดจุด Bottom แรก และกราฟแท่งเทียนเปิดและปิดต่ำกว่าแนวต้าน
อย่างตลาด Forex มีคนเทรดหลายร้อยล้านคนทั่วโลก Marketcap ใหญ่กว่าตลาดหุ้นทั่วโลกรวมกัน 3 เท่า
แต่ทำไม Indicator ที่ผมสร้างสามารถบอกจุดที่กราฟราคาทองคำ ราคาน้ำมันดิบ และค่าเงินต่างๆ ได้
ก็เพราะสมการทางคณิตศาสตร์สามารถคำนวณการเคลื่อนที่ของกราฟได้นั่นเอง อยู่ที่ใครจะสร้างสมการได้
ตลาด Forex มีความเสี่ยงสูงมากๆ หากไม่ใช้ Technical ที่ดีก็สามารถล้างพอร์ตได้ง่ายๆ ไม่ควรใช้ Lot Size สูง ใช้ Leverage ให้เหมาะสมกับต้นทุน
ผมเพียงยกตัวอย่างว่า จริงๆ แล้วหากคุณสามารถสร้างสมการทางคณิตศาสตร์ในการลงทุนได้ ต่อให้คุณไม่มีเงินมาก ก็สามารถมีเงินมากมายในเวลาอันสั้นครับ
แน่นอนว่าการเทรดตลาด Forex หรือ การเทรดตลาด ต่างๆ เราควรใช้แนวรับ แนวต้านจิตวิทยา ดูพฤิตกรรม Player ในตลาด ความโลภ ความกลัว และหลักเศรษฐศาสตร์การลงทุน ด้วย
และเงินในอนาคต จะเป็นคริปโทเคอร์เรนซี่ เราๆ ท่านๆ ต่างก็เคยได้ยินคำว่า Bitcoin กันมาบ้าง มันเกิดขึ้นมา 10 ปีกว่าแล้ว
ธนาคารทั่วโลกกำลังปรับตัวไปใช้เทคโนโลยี Blockchian เจ้าบล็อกเช็นตัวนี้ จะเปลี่ยนโลกการเงิน ไปเป็นแบบ Decentralized นั่นเองครับ
คำว่า Decentralized คือ การไม่รวมศูนย์กลาง แบบธนาคาร แน่นอน ธนาคารไม่หายไป แต่การสกุลเงินคริปโตจะมีบทบาทต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการลงทุน
มันทำให้ทุกคนสามารถลงทุนแบบไร้ศูนย์กลาง ระบบ Decentralized ไม่มีใครเป็นเจ้าของ มันเป็นมากกว่า Cashless Society
ตัวอย่าง ธนาคารไทยพาณิชย์ ก็เริ่มใช้ Ripple (XRP) ในการโอนเงินไปต่างประเทศ เพราะมันเร็วกว่าระบบเดิมมากๆ
การที่เราๆ ท่านๆ จะมีเงินมากๆ จะต้องมี
1. สร้าง Technial การเทรดที่มีประสิทธิภาพมากๆ
2. เข้าใจระบบคริปโทเคอร์เรนซี่
เศรษฐกิจ การเงินโลก จะเข้าสู่การเป็น Decentralized ทุกคนสามารถลงทุนทั่วโลก อย่างง่ายดาย
มันจะถูกขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ เข้าสู่ยุค เงิน คือ ความคิด
ขอบคุณครับ