บริษัทหลักทรัพย์(บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) กลับมองว่า SAWAD จะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากมาตรการดังกล่าวเท่านั้น เนื่องจาก SAWAD ได้รับผลกระทบเฉพาะส่วนของสินเชื่อ Low Yield ที่เรียกเก็บดอกเบี้ยรวมค่าธรรมเนียมราว 25% ซึ่งลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจากเกณฑ์ใหม่ที่ ธปท. ปรับใช้
ขณะที่พอร์ตสินเชื่อ High Yield ที่เรียกเก็บดอกเบี้ยมากกว่า 24% (เพดานสูงสุดอยู่ที่ 36%) ทั้งในส่วนของ Car for Cash และ Land for Cash ซึ่งปล่อยสินเชื่อผ่านบริษัทเงินทุน กรุงเทพธนาทร จำกัด (มหาชน) หรือ BFIT บริษัทย่อย ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว เนื่องจากเป็นบริษัทเงินทุนที่ดำเนินงานภายใต้กฎหมายคนละฉบับกับ Non-Bank รายอื่น
ส่วนมาตรการขยายเวลาชำระหนี้ของ ธปท. ที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะกระทบผลประกอบการของกลุ่มสินเชื่อ แต่ บล.บัวหลวง ประเมินว่า มาตรการดังกล่าวจะไม่กระทบผลประกอบการของ SAWAD อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจาก SAWAD มีลูกค้าราว 2 หมื่นรายจากลูกค้าทั้งหมด 1.3 ล้านราย ที่ขอใช้มาตรการช่วยเหลือดังกล่าวของ ธปท. ซึ่งเป็นสัดส่วนน้อยมาก