CRC ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอก.ย.นี้ ชูรายได้ทะลัก 2.4 แสนลบ.
"เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น" ธุรกิจโฮลดิ้งกลุ่มค้าปลีกเซ็นทรัล เตรียมยื่นไฟลิ่้งขายหุ้นไอพีโอในก.ย.นี้ และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯต้นปี 63 หวังลุยหาพันธมิตรขยายธุรกิจในต่างประเทศ ลั่นรายได้ปี 62 โต 6 - 7% จากปีก่อนที่ 2.4 แสนลบ. มั่นใจเข้าตลาดถูกจังหวะแม้เศรษฐกิจโลกยังซบเซา ขณะที่แผนถอด ROBINS ออกจาก SET คาดใช้เวลา 3 - 6 เดือน
*** "เซ็นทรัล รีเทลฯ" ยื่นไฟลิ่ง ก.ย.นี้ เข้าเทรดต้นปี 63
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ CRC เปิดเผยว่า บริษัทจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง) ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ได้ภายในเดือนก.ย.นี้ ก่อนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)ได้ภายในช่วงต้นปี 63 โดยปัจจุบันได้มีการแต่งตั้งบริษัท หลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแล้ว
โดยหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว จะทำให้บริษัทเปลี่ยนภาพลักษณ์จากธุรกิจครอบครัวไปสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียน ทำให้การหาพันธมิตรในภูมิภาคหรือประเทศอื่นๆทั่วโลกสามารถทำได้ง่ายขึ้น และตลาดหลักทรัพย์ฯถือเป็นช่องทางการระดมทุนในรูปแบบหนึ่งด้วย
*** ยอดขายปี 62 แตะ 2.5 แสนลบ.
บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 62 จะเติบโตจะเติบโตอยู่ที่ 6 - 7% จากปีก่อนที่มียอดขาย 2.4 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 1 - 2 เท่าของจีดีพีประเทศไทย โดยเชื่อว่าแนวโน้มกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีขึ้น ภายหลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ
อนึ่งธุรกิจเซ็นทรัล รีเทล มีกลุ่มจิราธิวัฒน์เป็นผู้ถือหุ้น 100% ดำเนินธุรกิจถือหุ้นในบริษัทอื่นๆในกลุ่มเซ็นทรัล แบ่งธุรกิจเป็น 3 กลุ่มดังนี้ 1)กลุ่มแฟชั่น ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, โรบินสันไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์, ซูเปอร์สปอร์ต, Central Marketing Group (CMG)และ รีนาเซนเต (Rinascente) 2)กลุ่มฮาร์ดไลน์ได้แก่ ไทวัสดุ, บ้านแอนด์บียอนด์ , เพาเวอร์บาย, เหงียนคิม 3)กลุ่มฟู้ด ได้แก่ ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่, ท็อปส์ พลาซ่า, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, แฟมิลี่มาร์ท, บิ๊กซี และ ลานซี มาร์ท
*** ชูอาหารสัดส่วนรายได้สูงสุด 43%
ทั้งนี้ในปี 61 มีสัดส่วนยอดขายมาจาก สินค้าอาหาร (Food) สัดส่วน 43% สินค้าแฟชั่น สัดส่วน 35% และ กลุ่มฮาร์ดไลน์ อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ มีสัดส่วน 22% ขณะที่หากแบ่งเป็นรายประเทศ มียอดขายในประเทศ 77% ในเวียดนาม 14-15% และในอิตาลี 8.5%
โดยปัจจุบันบริษัทมีห้างสรรพสินค้า และร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก รวมทั้งสิ้น 1,979 แห่ง ครอบคลุม 51 จังหวัดทั่วประเทศไทย อีกทั้งยังมีสาขาในต่างประเทศที่อิตาลี และเวียดนามรวมทัังสิ้น 134 แห่ง
*** เปิดแผนรุก Omnichanel เต็มสูบ
ล่าสุดได้พัฒนาแพลตฟอร์มสู่ Customer-Centric Omnichanel Platform เพื่อรองรับพฤติกรรมลูกค้าในยุคดิจิทัล โดยบริษัทได้เปิดตัวเว็บไซต์ central.co.th ในการเริ่มต้นการค้าออนไลน์ และอีคอมเมิร์ซ รวมถึงเชื่อมการซื้อขายสินค้าระหว่างออฟไลน์และออนไลน์ ภายใต้โครงการ New Central New Retail
*** มั่นใจ!เข้าตลาดถูกจังหวะ
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานกรรมการ เซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า เซ็นทรัล รีเทล เผยขณะนี้เป็นเวลาเหมาะสมที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุน คือ เศรษฐกิจมหภาคที่ยังอยู่ในระดับดี ทั้งเศรษฐกิจในประเทศ และในเวียดนาม ขณะที่อิตาลี การท่องเที่ยวยังเติบโตได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว
ขณะที่สถานการณ์นักท่องเที่ยวในประเทศไทยยังมีแนวโน้มเติบโตต่อจาก 37.4 ล้านคนในปี 61 เพิ่มเป็น 52 ล้านคนในปี 66
*** ถอน ROBINS ใช้เวลา 3 - 6 เดือน
ขณะที่แผนนำ บมจ.โรบินสัน (ROBINS) ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนจัดการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการเพิกถอนหุ้นของ ROBINS ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน SET คาดว่าจะใช้เวลา 3-6 เดือน
ที่มา : efinancethai