ประเทศไทยดีที่สุดในโลก เพราะฉะนั้นตลาดหุ้นไทยก็น่าจะปรับตัวไปได้ถึง 5,000 จุด :
ในขณะเดียวกันกับที่คนไทยโดยส่วนใหญ่มองว่าประเทศไทยแย่มากๆนั้น นักลงทุนต่างชาติกลับมีมุมมองว่า " ประเทศไทยดีที่สุดในโลก " เพราะ :
1) นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสุทธิ โดยในปี พ.ศ 2562 จนถึงวันที่ 19 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562 นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยสะสมสุทธิไปแล้ว +59,457 ล้าน บาท
2) Fitch Rating มีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยดังนี้ คือ :
2.1) ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลสูงถึง +5.6% ของ GDP
2.2) ทุนสํารองระหว่างประเทศมีมากถึง 216,000 ล้าน USD
2.3) หนี้สาธารณะตํ่าเพียงแค่ 42.02% ของ GDP
2.4) ค่าเงินบาทแข็งค่ามากที่สุดในโลกที่มากกว่า 4.5%
และอีกไม่นาน ทั้ง Fitch Rating และ S&P ก็คงจะปรับอันดับเครดิตความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทยในการออกตราสารหนี้สกุลเงินตราต่างประเทศและสกุลเงินบาทระยะยาวขึ้นจาก BBB+ เป็น A- เสียที หลังจากคงอันดับ BBB+ มานานกว่า 7 ปีแล้ว ทั้งนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ 2555 ในขณะเดียวกันกับประเทศอื่นๆในแถบอาเซียนได้รับการปรับอันดับแซงหน้าประเทศไทยไปก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว
เมื่อเป็นดังนี้แล้ว ตลาดหุ้นไทยก็น่าจะปรับตัวไปได้ถึง 5,000 จุดในวันอังคารแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ 2563 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไป
หมายเหตุ : 1) อันดับเครดิตความน่าเชื่อถือของรัฐบาลในการออกตราสารหนี้สกุลเงินตราต่างประเทศและสกุลเงินบาทระยะยาวที่ระดับที่ A- ที่จัดอันดับโดย Fitch และ S&P นั้น ประเทศไทยเคยได้ก่อนวิกฤติต้มยํากุ้งในปี พ.ศ 2540 และถ้าประเทศไทยได้ปรับอันดับเครดิตนี้ในปัจจุบันที่ BBB+ เป็น A- ในอนาคตอันใกล้นี้ ก็จะกลายเป็นว่าประเทศไทยได้อันดับเครดิตนี้ที่ A- กลับคืนมาครั้งแรกภายในระยะเวลา 22 ปี ที่เสียอันดับนี้ไป
2) โปรดติดตามการ Long และ Short Set 50 Derivatives ในระยะยาวได้ใน longtunbysak.blogspot.com และ Group Facebook
ที่ https://www.facebook.com/groups/2088093934817836/