ห้องเม่าปีกเหล็ก

รัฐประหาร, Impeachment และสงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิดขึ้นไหม?

โดย ศักดิ์
เผยแพร่ :
61 views

คําว่า " รัฐประหาร " นั้น ผู้โพสต์หมายถึงการทํารัฐประหารในประเทศไทย โดยอ้างอิงมาจากคําให้สัมภาษณ์สื่อฯของพลเอกอภิรัชย์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ ที่ว่า " ไม่รับประกันว่า จะไม่มีการรัฐประหารในประเทศไทยอีกในอนาคต

คําว่า " Impeachmemt " นั้น ผู้โพสต์หมายถึงการ Impeach ประธานาธิบดี Donald Trump ให้พ้นออกจากตําแหน่งประธานาธิบดีก่อนหมดวาระในช่วงปลายปี พ.ศ 2563

ส่วน คําว่า " สงครามโลกครั้งที่ 3 " นั้น ผู้โพสต์หมายถึงการเกิดสงครามที่ใช้อาวุธจริงๆ และน่าจะมีสาเหตุมาจากข้อพิพาทระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนในสงครามการค้าและสงครามการเงินที่อาจจะลุกลามบานปลายในอนาคต

แน่นอนว่าทั้ง 3 เหตุการณ์ข้างต้นจะต้องกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โอกาสที่จะเกิดก็มีน้อย เพราะ :

1) ประเทศไทยพึ่งผ่านการทํารัฐประหารมาครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2559 และคงจะต้องใช้เวลาสะสมความขัดแย้งของคนในชาติไทยอีกยาวนานพอสมควรกว่าจะประทุขึ้นมาจนถึงขั้นที่ทหารจะต้องออกมาทํารัฐประหารอีก ( หรืออาจจะเกิดเหตุการณ์ตรงกันข้ามเหมือนกับกรณีเหตุการณ์วันที่ 14 ตุลาคม ปี พ.ศ 2516 แทนก็ได้ ถ้าเกิดความผิดพลาดอย่างร้ายแรงจากการบริหารประเทศของรัฐบาลฯ และรัฐบาลฯยังคงยื้อดื้อด้านบริหารประเทศต่อไปอย่างต่อเนื่อง  ) ซึ่งผู้โพสต์คิดว่าปัจจัยความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศไทยในอดีตที่ผ่านมานั้น มีผลทําให้ตลาดหุ้นไทยไปไหนไม่ได้ไกลเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศอินโดนีเซีย โดยปัจจุบันตลาดหุ้นอินโดนีเซียอยู่ที่ 6,126  จุด ส่วนตลาดหุ้นไทยอยู่ที่  1,649  จุดเท่านั้นเอง ทั้งๆที่ 15 - 20 ปีที่แล้วตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 350 จุด ส่วนตลาดหุ้นอินโดนีเซียอยู่ที่ 250 จุด ( ซึ่งตลาดหุ้นไทยสูงกว่าตลาดหุ้นอินโดนีเซีย 100 จุด ) และที่สําคัญความสามารถในการแข่งขันของทั้งประเทศไทยและประเทศอินโดนีเซียนั้น ไม่ต่างกันเลย

2) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในอดีต ยังไม่เคยมีไครโดน Impeach เลย

3) เนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 1 มีผู้คนล้มตายเนื่องจากสงคราม 16 ล้าน คน และสงครามโลกครั้งที่ 2 มีผู้คนล้มตายเนื่องจากสงคราม 55 ล้าน คน ถ้าเกิดสงครามโลกครั้งต่อไปครั้งที่ 3  จะกลายเป็นสงครามล้างเผ่าพันธ์มนุษย์ทันที เพราะอาวุธที่จะใช้ในการทําสงครามนั้นจะต้องเป็นอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งมีอานุภาพในการทําลายล้างสูง ในเมื่อมนุษย์กลัวความตายและกลัวการเกิดสงคราม เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะเกิดจึงมีน้อยตามมา

อย่างไรก็ตาม ในฐานะนักลงทุนอย่างเราๆท่านๆก็ควรจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างไกล้ชิดต่อไป เพราะถ้าเกิดขึ้นจริงก็จะได้หาทางป้องกันได้อย่างทันท่วงที 

หมายเหตุ : โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง ( จากปัจจัยขับเคลื่อนและผลักดันโดยประธานาธิบดี Donald Trump ), ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ ( จากปัจจัยขับเคลื่อนและผลักดันโดยนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ) และ สภาวะตลาดหมี ( จากปัจจัยขับเคลื่อนและผลักดันโดยวัฏจักรเศรษฐกิจขาลงรอบใหญ่วิเคราะห์โดย Ray Dalio  ) ใน  longtunbysak.blogspot.com 

 


ศักดิ์