หุ้นความรัก :)
เราได้เริ่มรู้จักศึกษาหุ้นมาจากเคยมีคนคนหนึ่งใครก็ไม่รู้บอกเราว่า
"ถ้าอยากเล่นหุ้นก็ควรมีเงินเย็นๆสักก้อนแล้วไม่ได้เดือนร้อนอะไรที่จะใช่เงินส่วนนี้ก็ค่อยเอาไปลงทุน"
แล้วการลงทุนก็ยังต้องแบ่งอีกว่าเราเป็นคนเสี่ยงได้ในระดับไหน
- ไม่กล้าเสี่ยง คนที่ไม่กล้าเสี่ยง สิ่งแรกเลยนะ ยอมรับก่อนว่าไอตัวเลขในใจที่เรานั่งนับว่ากำไรมากมายถ้าลงทุนไป นี่มันเป็นไปไม่ได้นะ ถ้าไม่เสี่ยงเลย ผลตอบแทนจะมากขนาดนั้นได้ยังไงถูกไหม
- เสี่ยงระดับกลาง ก็ถือว่าโอเคนะ เสี่ยงบ้างแต่ก็ยังลังเลว่ามันคุ้มไหม เรารับได้ไหม ผลตอบแทนก็คงจะมากกว่าแบบไม่เสี่ยงเลย ไม่เยอะเท่าไหร่ ก็ต้องรับตรงนั้นให้ได้นะ เพราะเราเลือกเสี่ยงกลางๆก็เหมือนยื่นมือไปจับอะไรสักอย่างแต่จับไม่เต็มมืออะ เราจะดึงมาได้เต็มมือหรอไม่หรอก มันก็จะมีส่วนหนึ่งล้นหายไปตอนเราดึงนั้นแหละ
-เสี่ยงระดับสูง อันนี้เราก็ยังไม่เข้าใจโมเม้นตรงนี้นะ ว่าคนที่เค้าชอบเสี่ยงระดับนี้เขาคิดยังไง ขอไม่แสดงความคิดเห็นนะ
แต่สำหรับเรา เสี่ยงกลางๆก็พอ สูงไปเราก้รับไม่ค่อยจะได้ 555
--------------------------------------------
เราไม่เข้าใจหุ้น เราจะเปรียบเทียบมันได้ไง?
ก็ใช่ก็จริง แต่ว่า เรื่องเงินเย็นนี่แหละมันทำให้เราคิดอะไรได้ในวันที่เจอความรักที่มัน.....
เงินเย็น ตามที่เราเข้าใจนะอาจจะผิดบ้างถูกบ้างต้องขอโทษด้วย
เงินเย็นสำหรับเรามันคือ เงินที่เราเหลือใช้จากสิ่งที่จำเป็นในปัจจุบัน งงไหม ?
อารมณ์เงินเหลือๆที่เราไม่ได้จำเป็นต้องใช้ทันทีไม่ใช่เงินสำรองเลยนะ
แบบเป็นเงินที่ถ้าเรามีแล้วเอาไปฝากธนาคารไปมันก็ไม่ได้ดอกเบี้ยอะไรมากมาย จนทำให้เราคิดว่า เอาไปลงทุนดีไหม ?
* การตัดสินใจเอาเงินก้อนนี้ไปลงทุน
ก่อนอื่นเราจะไม่ได้ฝืนใจ ไม่ได้กดดัน ไม่ได้กังวลอะไรกับมันมาก
ก็เอาไปลงทุน ลงทุนทิ้งไว้ ได้กำไรหรือขาดทุนก็มาพิจารณาอีกทีว่าจะขายหรือลงทุนต่อ
เทียบกับความรักในมุมมองเรา
เงินเย็นก็เหมือนเรา ลงทุนก็เหมือนคนที่เรารัก การที่เราเลือกที่จะเอาเงินไปลงทุน แปลว่าเราพร้อมจะรับกับผลตรงนั้นแต่ ในเวลาต่างๆเราจะไม่เหนื่อยไม่ฝืนไม่กังวล เพราะมันคือการลงทุนที่เราเลือกแล้วสบายใจ เราไม่ได้คาดหวังกำไรมากมาย เราไม่ได้จะให้ขาดทุนมากมาย คือก็ดีกว่าเก็บไว้ในธนาคารปะ ถ้าเก็บไว้แต่ธนาคารก็เหมือนเก็บความรักไว้ทิ้งเปล่าๆไม่ได้ใช้อะไร
แล้วเราก็ไม่ได้คาดหวังว่ากำไรจะต้องสูงให้คุ้มกับที่เราลงทุนไหม? เพราะก่อนเราลงทุนเรายอมรับตรงนี้แล้วว่า การลงทุนไม่ได้มีอะไรมาการันตีว่าได้กำไรแน่ๆ หรือขาดทุนแน่ๆ ถูกไหมละ
ถ้าได้กำไร ก็แปลว่าความรักที่เราทำไป ทุ่มเทลงไป มันได้ผลนะ มันเวิร์ค เราก็ดีใจถูกมะ
ถ้าขาดทุน เราก็คงผิดหวังแต่อย่าลืมว่า การลงทุนครั้งนี้เราเลือกเองที่จะเสี่ยง เราเลือกว่าเราจะรับความเสี่ยงระดับเท่านี้ได้ ดังนั้นถ้ามันขาดทุนจนถึงจุดที่เราไม่สบายใจ ก็แค่ขายมันไป จะขาดทุนจะเป็นไร ขาดทุน 100 ดีกว่าปล่อยให้ขาดทุนถึง 10000 ไม่ใช่แปลว่าไม่พยายามนะ
แล้วถ้ามันจะเท่าทุนมันก็ไม่ได้รู้สึกดีมาก แย่มาก มันก็แค่รู้สึกดีเท่าเดิม
เพราะถ้าเราไม่ยอมรับในจุดจุดนี้ ถ้าเมื่อไหร่ที่ขาดทุน ตอนนั้นเราจะกระวนกระวายกังวลใจ
หงุดหงิด ผิดหวัง ทุกความรู้สึกแย่ๆจะตามมา ซึ่งถ้าเราเข้าใจมันตั้งแต่ตอนแรกมาเรากำลังลงทุนด้วยความเต็มใจที่จะรับความเสี่ยง เราก็จะไม่รู้สึกแบบนี้ แล้วเราก็จะไม่ต้องมานั่งกังวลทุกว่าว่าวันนี้มันจะกำไรหรือขาดทุน
ถ้าเราดูทุกวัน กังวลทุกวัน ถ้า
วันที่ 1 กำไร เราดีใจมาก
วันที่ 2 ขาดทุน เราก็เศร้ามาก
วันที่ 3 กำไร เราดีใจแต่อาจจะยังไม่มากเพราะเคยขาดทุนมาก่อน
วันที่ 4 ขาดทุน เราก็จะเศร้า และผิดหวังเพิ่มขึ้น
วันที่ 5 กำไร เราดีใจแค่เล็กน้อยเพราะกำไรอาจจะยังไม่เท่าที่เราพอใจเพราะเราเคยขาดทุนไปหลายครั้ง
ถ้าเมื่อไหร่เป็นแบบนี้ นั้นแหละเราควรเลิกเล่นได้แล้ว สำหรับความคิดเรานะ :)
เพราะจะยังไงก็ไม่พอใจอยู่ดีเพราะถ้าจะให้พอใจคือต้องได้กำไรเท่านั้น หรือเปล่า ?