สงสัยมากๆ Beauty ผู้ถือหุ้นใหญ่ยังขาย รับเงินไปนั่งกระดิกเท้าเล่นๆ 3.3 พันล้าน แต่ทำไมกองทุนยังรับซื้อ เขาบริหารเงินเป็นหรือเปล่าครับ หุ้นต่ำๆไม่ยอมซื้อ ชอบซื้อสูงๆพอติดดอยก็มาคัตลอสทิ้งบอกว่าหุ้นไม่เติบโตแล้ว
จริงๆผมว่าพวกกองทุนเขามองตลาดออกหรือเปล่า หรือว่าเป็นสนามฝึกซ้อมของเด็กฝึกหัดพอเก่งแล้วก็ไปเปิดบริษัทเอง ไม่มีมาตรฐานเลยครับ บอกตรงๆ
ข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ ..
หุ้นใหญ่“บิวตี้”ตัดขายหุ้น10%ให้สถาบันรับเงิน3.3พันล้าน
“ตระกูลไกรภูเบศ”หุ้นใหญ่บิวตี้ ตัดขาย 300 ล้านหุ้นหรือ10% ให้สถาบัน รับเงินกว่า 3.3 พันล้าน เผยยังคงถือหุ้นใหญ่-คุมการบริหารธุรกิจกดหุ้นร่วง
ทั้งนี้ราคาขายดังกล่าว กำหนดโดยวิธีการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (bookbuilding) กับผู้ลงทุนประเภทสถาบัน และภายหลังการขาย นายสุวิน และนางธัญญาภรณ์ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัทต่อไป โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 17.47% และ 8.47% ตามลำดับ รวมคิดเป็น 25.94% จากเดิม 35.94% อีกทั้งโครงสร้างการบริหารไม่เปลี่ยนแปลง
วัตถุประสงค์การขายหุ้นครั้งนี้ เพื่อเพิ่มฐานนักลงทุนสถาบัน เพื่อให้ฐานของผู้ถือหุ้นมีการกระจายตัวที่เหมาะสม และภายหลังการขายครั้งนี้ บริษัทจะมีสัดส่วนนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ 35% และนักลงทุนสถาบันไทย 21% ของ Free Float ของบริษัทตามลำดับ โดยมีบล.ภัทร เป็นผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
บิวตี้ เป็นผู้จำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว ปัจจุบันมีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม 4 ประเภทได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Make-up) ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skin care) อุปกรณ์เสริม (Accessories) และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ( Food Supplement ) ภายใต้แนวคิด 6 รูปแบบ ได้แก่ บิวตี้ บุฟเฟต์ (BEAUTY BUFFET), บิวตี้ คอทเทจ (BEAUTY COTTAGE), บิวตี้ มาร์เก็ต (BEAUTY MARKET), เมด อิน เนเจอร์ (MADE IN NATURE), เกิร์ลลี่ เกิร์ล (GIRLY GIRL) และบิวตี้ พลาซ่า (BEAUTY PLAZA) ซึ่งแต่ละแนวคิดจะมีความแตกต่างกันในด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ ช่องทางการจำหน่าย และตำแหน่งทางการตลาด เพื่อการตอบสนองความต้องการต่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกัน