คิดเป็น เห็นก่อน

กองทุนพระเอกมาแล้ว ต่างชาติหลบไป

เป็นไปตามคาด หลังการประชุม เฟด ที่มีมติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.25 % สู่ระดับ 1.25-1.50% พร้อมทั้งส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปี 2018 และอีก 3 ครั้งในปี 2019 ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดกัน แน่นอนระยะสั้นส่งผลต่อทิศทาง Fund Flow ไหลออกทั่วทั้งภูมิภาคไม่แต่เฉพาะประเทศไทย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าผลกระทบกับตลาดหุ้นไทยคงไม่มากเท่าไหร่ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติมีการทยอยขายหุ้นออกมาพอสมควร สะท้อนในประเด็นดังกล่าวแล้ว

ส่วนบรรยากาศตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ พยายามรักษาระดับดัชนีให้สามารถยืนเหนือ 1,700 จุดเอาไว้ให้ได้ โดยมีกองทุนเป็นพระเอกที่คอยเก็บหุ้น ช้อนรับหุ้นตุนเข้าพอร์ตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าน่าจะยังคงเห็นภาพแบบนี้ต่อไปจนถึงปลายปี เพราะยังมีเม็ดเงินจากกองทุน LTF และ RMF ที่จะเข้ามาอีกพอสมควร ส่วนนักลงทุนต่างชาติหลังจากนี้คงจะขายหุ้นออกมาอีกไม่มากเนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลพักผ่อนท่องเที่ยวกันแล้ว เรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ก็ประกาศออกมาแล้ว พักยาวกันได้

ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET 50 ,SET 100 ,sSET และ SETHD โดย SET 50 มีหุ้นเข้าคำนวนใหม่ 6 ตัว ได้แก่ BCP ,BEAUTY ,CENTEL ,TPIPP ,SARAD และ WHA

ในขณะที่ SET 100 มีหุ้นเข้าคำนวนใหม่ 13 ตัว sSET มีหุ้นเข้าคำนวณใหม่ 14 ตัว และ SETHD มีหุ้นเข้าคำนวนใหม่ 8 ตัว ส่วนรายละเอียดนักลงทุนสามารถติดตามรายชื่อหลักทรัพย์ทั้งหมดที่อยู่ในแต่ละดัชนี รวมทั้งหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์เพื่อเป็นองค์ประกอบของดัชนีและวิธีการคำนวณดัชนี ได้ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ www.set.or.th เรื่องนี้ถือเป็นปัจจัยบวกได้พอสมควรเช่นกัน แต่หลายๆตัวในกลุ่มที่ได้รับการคัดเลือกที่มีการคาดกันเอาไว้ก่อนหน้า ราคาหุ้นขึ้นมาตอบรับไปแล้วหลายตัวระวัง Sell on Fact ไว้ด้วยนะครับ แต่อย่างไรก็ตามหุ้นเหล่านี้ถือว่าเป็นหุ้นดี มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง น่าสนใจติดตามต่อครับ

สำหรับการลงทุนในตัวหุ้นที่มีพื้นฐานดี ราคาหุ้นยังต่ำ และเป็นที่สนใจของกองทุน ยิ่งน่าจะเป็นจังหวะที่ดีสำหรับนักลงทุนที่สามารถถือรอคอยได้ ด้วยเพราะหุ้นที่ดี ๆ พื้นฐานแกร่งที่มีผลการดำเนินงานเติบโตได้อย่างโดดเด่นในอนาคต จะให้ผลตอบแทนคืนกลับที่คุ้มค่ากับการลงทุนทั้งในแง่ของส่วนต่างของราคาหุ้น และเงินปันผลตอบแทน เพียงแต่ว่าเราจะต้องศึกษาวิเคราะห์ไตร่ตรองในตัวหุ้นที่เราสนใจให้รู้แจ้งเห็นจริงมีความเชื่อมั่นต่อการเติบโตของหุ้นในอนาคต โดยมีเหตุผลรองรับ มีสติไม่ให้อารมณ์มาอยู่เหนือการตัดสินใจ หากเราทำได้ในที่สุดแล้ว การขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไปของตลาดหุ้นก็จะทำให้การลงทุนของเราประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ได้ ก็ลองไปเลือกเฟ้นหาดูกันก่อน

สรุปแล้วช่วงนี้ตลาดหุ้นยังอยู่ในช่วงที่น่าจะขยับกันอยู่แถว 1,700 จุดต่อไป การลงทุนในตลาดหุ้นก็ยังมีโอกาสที่จะหวังผลตอบแทนที่ดีได้ เพียงแต่เราต้องอาศัยจังหวะการลงทุนที่ถูกต้อง เพราะภาวะของตลาดหุ้นก็ยังมีความผันผวนอยู่ เป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนจะประมาทมิได้เลย สำหรับการเลือกหุ้นลงทุนเพื่อให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงจังหวะนี้ คงต้องเกาะติดหุ้นที่มีกระแสเชิงบวกต่อธุรกิจ ที่จะส่งผลให้การดำเนินงานเติบโตได้ดี อย่างกลุ่มธนาคาร ที่ได้อานิงสงค์จาการที่ เฟด มีการขึ้นดอกเบี้ย ตลอดจนแนวโน้มดอกเบี้ยที่ยังเป็นขาขึ้น ซึ่งน่าสนใจครับ อย่างไรก็ตามนักลงทุนเองควรต้องพิจารณามองหาหุ้นเพื่อการลงทุนที่หวังผลได้ และสามารถเดินไปตามสิ่งที่หวังได้ครับ